“คนไทยเพียง 17 % ที่รับประทานผักผลไม้เพียงพอต่อวัน เราดีใจที่ได้เป็นส่วนเล็กๆ ในการแก้ปัญหาการรับประทานผักในชีวิตประจำวันของทุกคน”
คุณวิริยา พรทวีวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ไบโอเวกกี้ จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อ 10 ปี ก่อน มองเห็นสินค้าการเกษตรล้นตลาดและมีราคาตกต่ำ จึงคิดนำสินค้าเกษตรเหล่านั้นมาแปรรูป สร้างมูลค่าเพิ่ม อีกทั้ง จากปัญหาของคนไทยที่ทานผักน้อยมากมีเพียงแค่ 17 % เท่านั้นที่ได้รับประทานอาหารประเภทผักและผลไม้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน คือ 400 กรัม นี่จึงเป็นที่มาของผักอัดเม็ด ภายใต้แบรนด์ ไบโอเวกกี้ ที่เชื่อว่าผักอัดเม็ดจะสามารถช่วยแก้ปัญหาสุขภาพเรื่องขับถ่ายหรือไม่มีเวลาในการหาผักมารับทานได้ อีกทั้งยังเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่อยู่ในพื้นที่อีกด้วย
“ลงทุนในช่วงแรก ต้องยอมรับว่ากลัวเจ๊ง แต่เราต้องสู้ และมีความรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำมันใช่ ถึงแม้จะเป็นอนาคตที่เรารอคอย แต่เราก็มีความตั้งใจว่า คนจะต้องทานของเราแน่นอน เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ช่วยได้จริงๆ ”
ใช้เวลาทำการตลาดกว่า 6 ปี กว่าที่จะสร้างยอดขาย 30 ล้านบาท
ผักอัดเม็ด ไบโอเวกกี้ ใช้เวลาทำการตลาดกว่า 6 ปี กว่าที่จะสร้างยอดขาย 30 ล้านบาทได้ จากเดิมที่ไม่เคยถึง 10 ล้าน ในปีแรกๆ เพราะมันยากในการสื่อสารให้ผู้บริโภคได้เข้าใจตัวสินค้า ว่าทำไมถึงต้องทานผักอัดเม็ด ทำไมไม่ทานผักสดๆ ความต้องการของผลิตภัณฑ์นี้ยังมีไม่มาก หลายคนมองว่าเป็นสินค้าในอนาคต แต่ 6 ปีที่ผ่านมาทำให้เห็นแล้วว่ามีความต้องการของสินค้าอยู่จริง ลูกค้าเกิดการยอมรับในตัวสินค้าว่าทานแล้วช่วยเรื่องสุขภาพได้จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขับถ่าย เพราะว่าทุกคนต้องทานผัก ผักมีประโยชน์อย่างไร สินค้าของเราที่ทำออกมา มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับของสดถึง 90 %
จุดเปลี่ยน คือ มาตรฐานของสินค้า
เรามีงานวิจัยร่วมกับกระทรวงวิทยาศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุข ที่ช่วยวิจัยต่อยอดในเรื่องของสารอาหาร ที่ยังมีอยู่มากมายภายในผัก มาตรฐานการผลิตที่เรามีมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นมาตรฐานการส่งออก อีกทั้งยังสะดวกสบายในการพกพาเหมาะกับยุคสมัยนี้ที่ผู้คนไม่ค่อยมีเวลาดูแลสุขภาพจึงต้องการสินค้าที่ตอบโจทย์และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ด้วยคุณภาพของสินค้าที่ทำให้ผักอัดเม็ด ไบโอเวกกี้พลิกธุรกิจจากไม่มีคนทานกลายเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวันมีลูกค้าทั้งในประเทศไทยและประเทศในแถบตะวันออกกลางรวมไปถึงยุโรป
เคล็ดลับความสำเร็จ
สิ่งแรกก็คือเรื่องของความใส่ใจ ในตัวผู้บริโภค และก็เรื่องของความตั้งใจจริง ของการทำธุรกิจก็คือ มุ่งหวังที่จะให้ผู้บริโภคได้รับ ประโยชน์สูงสุด กับสินค้าที่เราทำ คิดอย่างไม่หยุดยั้ง นำนวัตกรรมใหม่ๆ เข้ามาเสริม เติมเต็มในเรื่องของกระบวนการผลิตอยู่เรื่อยๆ
และสิ่งสำคัญที่สุดในการทำธุรกิจในปัจจุบัน คือการที่จะทำตัวสินค้าอะไรก็ตาม การแข่งขันสูงมาก การจะทำสินค้าอย่างใดอย่างหนึ่ง จำเป็นต้องมีนวัตกรรม มีความความต่าง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการใช้งาน การบริโภค หรือตัวลักษณะของสินค้า เราจะต้องมีตรงนี้เข้ามาเสริม เพื่อส่งเสริมให้การขายที่ง่ายขึ้น ถ้าเราไม่ต่าง มันเหมือนกับเราทำให้ผู้บริโภคมองไม่เป็นชัดเจนว่า มันสามารถที่จะช่วยอะไรเขาได้จริงๆ อันนี้คือสิ่งที่สำคัญ
ส่วนประกอบของผักอัดเม็ด ไบโอเวกกี้ ประกอบด้วยผักจากโครงการหลวง 12 ชนิดที่มีสารอาหารสูง ได้แก่
สั่งซื้อสินค้าได้ที่ Line@ : @bioveggie หรือที่ตัวแทนจำหน่ายสินค้าทั่วประเทศ
www.bioveggie.net
