ลลดา เล่าว่า หลังจากที่เรียนจบปริญญาตรี ก็เข้าทำงานด้านประสานงานอยู่หลายปี ก็ลาออกมาเพื่อเปลี่ยนงานใหม่ ในช่วงระหว่างนั้นเธอก็อยากจะทำอาชีพเสริมเพื่อหารายได้ โดยก่อนหน้าเธอก็ขายเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านเฟชบุ๊กอยู่แล้ว พอใกล้ถึงช่วงสงกรานต์ เธอจึงอยากจะขายของที่เข้ากับเทศกาล จนมาจบที่ชุดสไบ โจงกระเบน ซึ่งเป็นชุดไทยที่ยังไม่มีเจ้าไหนในตลาดขายอย่างจริงจัง
“ตอนที่ทำงานประจำอยู่นั้น มีช่วงหนึ่งเขามีการรณรงค์ให้ใส่ชุดไทยไปทำงาน แต่ด้วยความที่เราเป็นวัยรุ่น เลยไม่รู้ว่าจะประยุกต์แต่งตัวอย่างไร เพราะชุดไทยใส่แล้วดูแก่ แถมยังราคาแพง หาซื้อยาก จึงเกิดเป็นไอเดียว่า อยากจะเปลี่ยนผ้าไทยให้เป็นเสื้อผ้าแฟชั่นที่วัยรุ่นใส่ได้ในชีวิตประจำวัน” ลลดา กล่าวเสริม
ช่วงแรกที่เปิดเพจสินค้าของทางร้านจะเป็นการไปรับมาขายจากแหล่งขายส่งทั่วไป โดยที่ ลลดา ไม่ได้คาดหวังว่า มันจะประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะไม่แน่ใจว่าตลาดวัยรุ่นจะกล้าใส่ชุดไทยหรือไม่ แต่หลังจากเปิดตัวไปแค่ 1 สัปดาห์ มีคนเข้ามากดไลค์กว่า 2 หมื่นคน มีออเดอร์สูงสุดวันเดียว 300 ชุด ทำเงินเป็นหลักแสนบาท
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แฟนเพจเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว มาจากภาพแฟชั่นเซ็ทที่ให้สาวๆ วัยรุ่นน่ารัก แต่งชุดไทย ห่มสใบเล่นน้ำ โดยคงคอนเซ็ปต์สงกรานต์สวยได้ ด้วยชุดไทย แถมไม่โป๊ ซึ่งลลดาก็เป็นหนึ่งในนางแบบของแบรนด์ด้วย ภาพเซ็ทนี้เองถูกแชร์ต่อไปทั่วสังคมออนไลน์ในเวลาอันรวดเร็ว ส่งผลให้มีลูกค้าตามมาในเพจจำนวนมาก
เมื่อมีผลตอบรับที่ดีต่อเนื่อง เธอก็ได้หันมาผลิตชุดเอง โดยได้ช่างตัดเย็บฝีมือดีมาร่วมงาน ทำให้สินค้าของ “April’s” มีเอกลักษณ์โดดเด่น สีสันสวยงาม อ่อนหวานและน่ารัก ดีไซน์เป็นแบบชุดไทยโมเดิร์น ใส่แล้วทันสมัย ใช้ได้สวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน สีและลายของผ้าจะเน้นโทนสีหวาน ที่เหมาะกับวัยรุ่น นอกจากนี้ ชุดบางคอลเลคชั่น ยังได้ผสมผสานระหว่างผ้าไทยกับผ้าแฟชั่น เพื่อสร้างความแปลกใหม่และมีลายที่มากขึ้น แถมยังช่วยลดต้นทุนได้ เพราะผ้าไทยที่มีราคาสูง ทำให้สามารถขายได้ในราคาที่เทียบเท่าเสื้อผ้าแฟชั่นทั่วไป
เสื้อผ้าของ April’s โดดเด่นเรื่องดีไซน์และการตัดเย็บที่มีฟังก์ชั่นใช้งานครบถ้วน แถมยังตั้งชื่อแต่ละแบบให้เข้ากับความเป็นไทยอีกด้วย ตัวอย่างเช่น “ชุดคุณสาลี่ ฟอร์เมิลเซ็ท” เป็นชุดผ้าไหมเทียม ที่ใส่สบาย ไม่ร้อน ตัวเสื้อแขนกุดประดับด้วยกระดุมสีทองรมควันลายดอกกุหลาบ มาพร้อมกางเกงขายาวเรียบหรู ด้านในมีซับทั้งตัว ช่องระหว่างกระดุมเสื้อตัดเย็บสาบ ทำให้ไม่โป๊ “สมศรีหนีงาน” กระโปรงทรงสอบผ้าพิมพ์ลายไทย ด้านในมีซับในตัว ใส่แล้วไม่โป๊ เหมาะสำหรับใส่ทำงาน “อีเย็นเดินพรมแดง” กระโปรงจีบลายผ้าถุงไทย ด้านในตัดเย็บด้วยซับในและสุ่มตะข่าย สามารถใส่ทำงาน ใส่เที่ยวสบายๆ ได้
ปัจจุบัน ชุดของ April’s มีมากกว่า 30 แบบ ส่วนใหญ่เป็นแบบผ้าไทยประยุกต์ มีทั้งเป็นเสื้อ ผ้าซิ่น กระโปรง โจงกระเบน ผ้าสไบ เป็นต้น จำหน่ายผ่านทาง แฟนเพจ www.facebook.com/aprilsthai ราคา 185 บาท สำหรับผ้าสไบ ส่วนชุดอื่นๆ เริ่มต้นที่ 290 บาท ยอดขายโดยเฉลี่ยในปัจจุบันของ April’s อาจจะไม่พีคเท่าช่วงสงกรานต์ แต่ก็ยังคงทำเงินแตะหลักแสนทุกเดือน
ลลดา เผยว่า กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่แบรนด์ใช้มีหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายแฟชั่นเซ็ทให้เข้ากับเทศกาลที่กำลังจะมาถึงเพื่อดึงความสนใจลูกค้า ถ่ายเสื้อผ้าให้เข้ากับฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมทั้งจัดกิจกรรมให้ลูกค้าได้ร่วมสนุก เช่น ประกวด Miss April's 2017 ที่ให้ลูกค้าส่งภาพใส่ชุดไทยของร้านมาประกวดผ่านแฟนเพจ ส่วนกลยุทธ์อื่นๆ ก็เหมือนกับร้านค้าออนไลน์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ตอบลูกค้าให้เร็ว มีการโชว์รีวิวจากลูกค้า และถ่ายสินค้าอย่างตั้งใจให้สวยงาม ไม่ใช่แค่ถ่ายให้เห็นๆ พร้อมอธิบายรายละเอียดให้ครบถ้วน เป็นต้น อีกส่วนที่สำคัญที่ทำให้ April’s ประสบความสำเร็จ คือ “ตัวสินค้า” ที่มีคุณภาพ และความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร ขอบคุณภาพจาก www.facebook.com/aprilsthai