วิพาสน์พร เป็นตัวแทนของกลุ่มบอกเล่าถึงแนวความคิดของการดำเนินแบรนด์ “Holen” ว่า ด้วยความที่มองเห็นโอกาสของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเล็งเห็นว่าสินค้าประเภทของที่ระลึกเป็นตลาดที่น่าสนใจ แต่สินค้าที่มีอยู่ในตลาดส่วนใหญ่จะมีลักษณะคล้ายๆ กัน “รามเกียรติ์” คือ คาแรกเตอร์ หรือคอลเลคชั่นแรกที่ Holen ภูมิใจนำเสนอสู่ผู้บริโภค

วิพาสน์พร ให้เหตุผลว่าที่เลือกหยิบเรื่องราวของรามเกียรติ์มาเป็นสื่อที่จะส่งมอบความประทับใจให้กับลูกค้านั้น ก็เพราะคาแรกเตอร์ยักษ์เปรียบเสมือนเป็นประตูด่านแรกที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ อีกทั้งเมื่อมาเที่ยวยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ก็ยังได้พบเห็นตัวละครจากเรื่องรามเกียรติ์ในนั้น ซึ่งนักท่องเที่ยวจะเกิดความคุ้นชินกับตัวละครเหล่านี้เป็นอย่างดี เมื่อถูกนำมารวมกับการออกแบบ ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ จึงง่ายต่อการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหลักที่เป็นนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม การนำเรื่องราวของรามเกียรติ์ มาผลิตเป็นสินค้าก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จได้โดยง่าย หากสินค้าไม่มีความโดดเด่นจนเป็นที่สนใจของผู้ซื้อ แต่แบรนด์ “Holen” ของวิพาสน์พรและเพื่อนๆ มีความโดดเด่นทางด้านของการออกแบบที่ผ่านขั้นตอนของการลองผิดลองถูก ทั้งทางด้านของเทคนิคการผลิต ดีไซน์ ยกตัวอย่าง เช่น ผลิตภัณฑ์แก้วเซรามิคที่ออกแบบจากตัวละคร “ยักษ์” ซึ่งจะมีลักษณะของส่วนเว้า ส่วนโค้งให้เป็นลักษณะของใบหน้าจริง ไม่ใช่เพียงแค่เป็นรูปภาพสกรีนมาแปะไว้บนแก้ว

รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบโครงสร้างใหม่ให้สามารถปกป้องสิ่งของที่อยู่ภายในไม่แตกหัก โดยมีการจัดวางโครงสร้างให้สามารถที่จะโชว์ความโดดเด่นของสินค้าได้ นอกจากนี้ยังมีการใส่เนื้อเรื่องย่อของรามเกียรติ์ลงไป เพื่อให้เห็นวิธีคิดและเรื่องราวของสินค้า นอกจากนี้ยังได้นำเทคโนโลยี QR Code มาใช้ เมื่อผู้ซื้อสแกนลงไปกูเกิล (Google) ก็จะบ่งชี้ไปที่วัดพระแก้ว ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวไปในตัว เพราะความตั้งใจที่จะทำให้สินค้าที่วางจำหน่ายเป็นมากกว่าของขวัญ ซึ่งผู้ที่ได้นอกจากจะได้เรียนรู้เรื่องวัฒนธรรมก็จะได้ส่งต่อวัฒนธรรมในรูปแบบของสินค้าที่ระลึก “หนุมานจำแลงกาย” คือหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นของ Holen ทั้งในแง่

ของคอนเซ็ปต์และดีไซน์ ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นตุ๊กตาหนุมาน แต่สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างให้กลายเป็นหมอนหนุนคอพร้อมฮู๊ดคลุมศีรษะสำหรับใช้ในการเดินทางได้ ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นที่รองแก้ว ผ้าปิดตานอน ถุงกระเป๋าพับเก็บได้ และตุ๊กตาประจำวันเกิด ในอนาคตวิพาสน์พร บอกว่าจะเพิ่มคอลเลคชั่นอื่นๆ ออกมาทำตลาดอย่างแน่นอน ส่วนคอลเลคชั่นของรามเกียรติ์ก็จะมีการออกสินค้ารูปแบบอื่นออกมาจำหน่ายเพิ่มเติม เพราะถือว่าเป็นจุดแข็งของแบรนด์ และภาพจำของลูกค้าที่สามารถต่อยอดได้

ปัจจุบัน Holen มีช่องทางหลักในการจำหน่ายบนออนไลน์ทางเว็บไซต์ www.holenhellp.comรวมถึงมีสินค้าวางจำหน่ายอยู่ที่นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ และการออกงานแสดงสินค้า

      อย่างไรก็ตามในช่วงกลางปี 2560 จะมีการเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายไปสู่สนามบินสุวรรณภูมิ และการมีหน้าร้านเป็นของตนเองอย่างเป็นทางการ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ผู้ซื้อส่วนใหญ่จะเป็นคนไทย โดยเฉพาะผู้ที่มีเพื่อนชาวต่างชาติ รวมถึงบริษัทขนาดใหญ่ที่นิยมซื้อสินค้าเป็นของพรีเมี่ยม มอบให้กับลูกค้าต่างประเทศ และกลุ่มเด็กที่ชื่นชอบในเรื่องราวของรามเกียรติ์ ส่วนการขยายแบรนด์ออกไปต่างประเทศ น่าจะเป็นทิศทางในอนาคต

       หากมีความเป็นไปได้ เพราะเธอยังไม่แน่ใจว่าด้วยเนื้อหาความเป็นไทยอย่างมาก ตลาดต่างประเทศจะเข้าใจได้มากน้อยเพียงใด โดย Holen มีวัตถุประสงค์ในการเป็นสินค้าที่ระลึกให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อกลับไป หรือคนไทยซื้อและส่งต่อไปยังต่างประเทศ “เราไม่ได้คิดถึงเรื่องการเติบโตของธุรกิจมากมายเท่าใดนัก สิ่งที่สำคัญที่เรามุ่งเน้นก็คือ อย่าหยุดคิด และสร้างสรรค์สินค้าที่ดีออกสู่ตลาดให้ผู้บริโภคได้ตื่นตาตื่นใจ ส่วนยอดขายจะเป็นผลพลอยได้ที่ตามกลับมา”