อีกทั้งยังเป็นเมืองเศรษฐกิจสำคัญอันดับ 2 รองจากเมืองย่างกุ้ง และที่สำคัญ มัณฑะเลย์กำลังก้าวขึ้นเป็น Super Gateway ที่เชื่อมไปยังจีนและอินเดีย ซึ่งเมื่อประกอบกับศักยภาพทางเศรษฐกิจที่เอื้อต่อการลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่อง ธุรกิจโลจิสติกส์ ตลอดจนการเป็นฐานการผลิตสินค้า โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ไม้ สิ่งทอ และสินค้าเกษตรแปรรูป ส่งผลให้ปัจจุบันการลงทุนจากต่างประเทศหลั่งไหลเข้าสู่มัณฑะเลย์อย่างไม่ขาดสาย
ข้อมูลจากฝ่ายวิจัยธุรกิจธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ระบุว่า มัณฑะเลย์มีความพร้อมของระบบโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการลงทุน นอกจากนี้ ภายใต้แผนพัฒนาเครือข่ายคมนาคมแห่งชาติของเมียนมา ยังมีโครงการยกระดับเส้นทางรถไฟสายมัณฑะเลย์-เนปิดอว์-ย่างกุ้ง ซึ่งจะทำให้การเดินทางด้วยรถไฟระหว่างเมืองมัณฑะเลย์และเมืองย่างกุ้งลดเวลาลงจาก 16 ชั่วโมงในปัจจุบัน เหลือเพียง 8 ชั่วโมงเมื่อโครงการแล้วเสร็จในปี 2566 รวมถึงยังมีอีกหลายโครงการที่เชื่อมเมืองมัณฑะเลย์สู่เมืองสำคัญอื่นๆ โดยเฉพาะเมืองชายแดนที่เป็นประตูการค้าสำคัญ
ยิ่งไปกว่านั้น เมืองมัณฑะเลย์ยังมีศักยภาพในด้านการเป็นศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ที่เชื่อมไปยังตลาดขนาดใหญ่อย่างจีนและอินเดียที่มีประชากรรวมกันราว 2,600 ล้านคน หรือเกือบ 40% ของประชากรทั้งโลก ซึ่งศักยภาพดังกล่าวทำให้เมืองมัณฑะเลย์กำลังได้รับการจับตามองในฐานะ Super Gateway ที่เชื่อมไปยังจีนและอินเดียภายใต้ยุทธศาสตร์การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมของทั้งจีนและอินเดีย
โดยเชื่อมโยงจากนครคุนหมิง เมืองหลวงของมณฑลยูนนาน ไปยังเมืองมูเซ เมืองชายแดนในรัฐฉานของเมียนมา ก่อนเข้าสู่เมืองมัณฑะเลย์และไปสิ้นสุดที่ท่าเรือน้ำลึกเจ้าผิวในรัฐยะไข่เพื่อออกสู่มหาสมุทรอินเดีย ขณะที่อินเดียมีเส้นทาง IMT (India-Myanmar-Thailand) Trilateral Highway เชื่อมโยงจากเมืองมอเร่ เมืองชายแดนในรัฐมณีปุระของอินเดีย เชื่อมไปยังเมืองทะมูเมืองชายแดนในเขตมัณฑะเลย์ของเมียนมา ลงมาทางใต้ผ่านเมืองมัณฑะเลย์ กรุงเนปิดอว์ และเมืองย่างกุ้ง ก่อนเข้าสู่ไทยที่จังหวัดตาก ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าเมืองมัณฑะเลย์เป็นจุดตัดสำคัญของทั้งสองเส้นทางหลักดังกล่าว ทำให้เมืองมัณฑะเลย์กำลังถูกจับตามองในฐานะศูนย์กลางการค้าการลงทุนสำคัญในการเชื่อมโยงกับจีนและอินเดียที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ อันจะนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการไทยหลายประการผ่าน
1) เส้นทางการค้าใหม่ (New Trade Route) เพื่อเจาะตลาดจีนและอินเดีย
2) ฐานการผลิตแห่งใหม่ (New Production Base) เพื่อป้อนสินค้าสู่ตลาดจีนและอินเดีย
3) แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ (New Tourist Destination) เพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร
ปัจจุบันนักลงทุน ท้องถิ่นและนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงนักลงทุนไทยเริ่มเข้าไปขยายการลงทุนในเมืองมัณฑะเลย์แล้ว โดยเฉพาะในเขตอุตสาหกรรมมัณฑะเลย์ (Mandalay Industrial Zone) ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองมัณฑะเลย์ มีโครงการลงทุนมากกว่า 1,200 โครงการ อาทิ ธุรกิจเกษตรแปรรูป เฟอร์นิเจอร์ไม้ ถลุงเหล็ก อาหารและเครื่องดื่ม ขณะที่นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุนในธุรกิจผลิตอาหารสัตว์และธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตร
นอกจากนี้ การลงทุนในมัณฑะเลย์ยังมีแต้มต่อจากการมีต้นทุนโดยเฉพาะค่าเช่าที่ดินและค่าสาธารณูปโภคที่ต่ำกว่าเมืองย่างกุ้ง ประกอบกับการแข่งขันยังไม่รุนแรงนัก นักลงทุนไทยควรใช้โอกาสนี้ในการเข้าไปขยายการค้าการลงทุนในช่วงที่เมืองมัณฑะเลย์กำลังเติบโต พร้อมทั้งใช้จุดแข็งของเมืองมัณฑะเลย์ในการเป็น Super Gateway เชื่อมโยงการค้าการลงทุนไปยังตลาดขนาดใหญ่อย่างจีนและอินเดีย ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (Exim Bank) ได้เปิดสำนักงานผู้แทนในย่างกุ้ง เพื่อเป็นกลไกสนับสนุนผู้ประกอบการไทยด้านการค้าระหว่างไทยและเมียนมา ผู้ประกอบการไทยในเมียนมา สามารถแวะเข้าไปขอรับคำปรึกษาได้ที่ ชั้น 6 Centrepoint Tower ณ เมืองย่างกุ้ง