ย้อนกลับไปช่วงชีวิตในวัยเด็กของเฮียนพ เขาพบกับความแร้นแค้นแสนลำบาก เกิดมาในครอบครัวยากจน มีพี่น้องด้วยกัน 4 คน เขาเป็นลูกคนที่ 2 พ่อแม่ทำอาชีพขายผัก เขาเรียนจบแค่ชั้น ม.3 ก็ต้องออกมาหางานทำในวัยเพียง 15 ปี เริ่มจากเป็นเด็กในไซด์งานก่อสร้าง ทำตั้งแต่หิ้วปูน ก่อ ฉาบ ก่อนที่จะไปเป็นช่างทาสี ทำได้อยู่เกือบ 7 ปี จนถึงปี 2533 ก็ลาออกไปทำโรงงาน เพราะช่วงนั้นได้แต่งงาน จึงอยากจะหาอาชีพที่มั่นคงและมีสวัสดิการสังคมที่ดี
หลังจากที่เป็นหนุ่มโรงงานกว่า 10 ปี ชีวิตของเฮียนพก็ดีขึ้น มีทั้งบ้าน รถยนต์ และลูกน้อยในวัยกำลังซน แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลกกับชีวิตเฮียนพ เพราะช่วงชีวิตหลังจากนี้มีแต่อุปสรรค ช่วงปี 2554 วิกฤตเศรษฐกิจ ทางโรงงานที่ทำอยู่ประสบปัญหาการเงิน ทำให้เฮียนพต้องถูกจ้างออก พร้อมได้เงินก้อนอีก 2-3 หมื่นบาท เพื่อเป็นทุนต่อชีวิต
หลังจากสิ้นสุดชีวิตหนุ่มโรงงาน เขาก็เริ่มเป็นนายจ้างตัวเอง ทำอีกหลายอาชีพสารพัด ตั้งแต่ขายต้นไม้มงคล ที่ทำไปสักพักก็ไม่รุ่ง แล้วหันไปขายเสื้อผ้าเด็กแทน แต่ก็ไม่ดีอีกเช่นเคย จากนั้นก็ไปเรียนทำน้ำยาล้างจาน เพื่อที่จะมาทำขายให้ร้านอาหาร ก็ไม่มีใครซื้ออีก เพราะไม่มีแบรนด์ แล้วหันมาขายไอติมกะทิสดก็ไม่ประสบความสำเร็จอีกเช่นเคย จนมาลงเอยที่การเป็น รปภ.
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดยังไม่พอ บ้านของเฮียนพก็ถูกยึดแบบไม่ทันตั้งตัว จนต้องระเห็ดไปอาศัยนอนเปลที่ร้านอาหารตามสั่งของน้องสาวที่โรงพักปากเกร็ด ส่วนภรรยาและแฟนต้องย้ายไปเช่าบ้านใหม่ที่ย่านสะพานใหม่ และด้วยรายได้ไม่พอจุนเจือ เขาก็เริ่มไปขับแท็กซี่กะกลางคืนควบไปด้วย แต่ก็ไม่รอด แล้วหันไปขับวินมอเตอร์ไซค์แทน ซึ่งจุดนี้เองทำให้เขาได้เจอกับแสงสว่างในชีวิตอย่าง “ฮั่ว อักษร” แม่บ้านตำรวจที่ทำหมูปิ้งไปด้วย
ฮั้ว คนนี้เองที่เป็นคนสอนสูตรหมูปิ้งให้น้องสาวของเฮียนพทำขาย ซึ่งทำไปทำมาขายได้วันละ 200-300 ไม้ จากนั้นน้องสาวจึงได้ชักชวนเขาให้ไปทำช่วย โดยเป็นคนทำส่งอย่างเดียว ส่วนน้องมีหน้าที่ขาย จากนั้นก็มีป้ารับไปขายอีกแห่ง ซึ่งที่ร้านป้านี่เองมีลูกค้ามาถามว่า
“ใครเป็นคนทำ เขาจะรับไปขาย” จึงได้มาติดต่อที่เฮียนพ ซึ่งวันแรกก็สั่งไปกว่า 1,000 ไม้ ทำให้เขาเห็นลู่ทางขยายธุรกิจ จึงไปติดต่อแม่ค้าตามตลาดให้รับหมูปิ้งไปขาย
หลายเจ้าเห็นว่าหมูปิ้งเฮียนพขายดี มีกำไร ก็มียอดสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระยะเวลาเพียง 3 เดือน เฮียนพก็มีเงินบัญบัญชีกว่า 3 ล้านบาท และจ้างพนักงานกว่า 40 คน มาช่วยทำ จากนั้นเขาก็อาจจะก้าวกระโดดทางธุรกิจ ด้วยการสร้างโรงงานหมูปิ้งที่ได้มาตรฐาน เพื่อรองรับออเดอร์มหาศาลในอนาคต
“ตอนที่เข้าร้านสะดวกซื้อ ก็จะเห็นสินค้าหลายๆ ยี่ห้อ เราก็อยากจะเห็นหมูปิ้งของเราไปวางขายบ้าง แต่ต้องทำให้มันได้มาตรฐาน แม้ทุกคนรอบข้างจะไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าหมูปิ้งทำตรงไหนก็ได้ อีกอย่างสร้างโรงงานมันก็เสี่ยง แต่เรามองว่ามันมีโอกาสสำเร็จ เพราะตั้งแต่ที่ทำธุรกิจนี้มา มันไม่เคยติดขัดอะไรทุกอย่างมันเป็นใจ ทำให้เราฮึกเหิมอยากสร้างโรงงาน” เฮียนพ กล่าวเสริม
เฮียนพ เปิดโรงงานครั้งแรกเมื่อปลายปี 2557 ซึ่งนับว่าเป็นโรงงงานหมูปิ้งแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งมียอดผลิตกว่าหนึ่งล้านไม้ต่อสัปห์ดาห์ จนถึงปัจจุบัน หมูปิ้งจากโรงงานแห่งนี้สามารถสร้างรายได้กว่า 200 ล้านบาทต่อปี ปัจจุบัน “เฮียนพ” เปิดขายแฟรนไชส์หมูปิ้งนมสด “ชุดตั้งหลักได้ ภายใน 7 วัน” ลงทุน 15,900 บาท เปิดร้านได้ทันที ไม่เสียค่าแฟรนไชส์และค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ตลอดชีพ ผลกำไรของการขายหมูปิ้งอยู่ที่ 1.50- 5.80 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของหมูปิ้ง คืนทุนภายในเวลาเพียง 7 วัน
สำหรับใครที่อยากจะสัมผัสหมูปิ้งร้อยล้าน สามารถมาเยี่ยมชมได้ที่งาน SMART SME EXPO 2017 บูธ E34 พร้อมเปิดโอกาสให้ร่วมลงทุนรวยไปกับเฮียนพ หรือติดต่อได้ที่ Facebook: nop.moonoom และ www.moo-noom.com