ณิชชฎา เล่าว่า ครอบครัวได้เปิดร้านขายวัตถุดิบร้อยพวงมาลัยมานานกว่า 20 ปี โดยส่วนใหญ่จะเป็นพวงมาลัยไหว้พระและอุปกรณ์อื่นๆ ขายราคาแค่ 5 บาท 10 บาท แต่หลังจากที่เธอเรียนจบก็เข้ามาช่วยดูแลร้านก็มีความคิดที่จะทำพวงมาลัยสวยๆ ออกมาขายที่สามารถใช้ได้หลายเทศกาล จากนั้นก็ได้เริ่มฝึกหัดร้อยมาลัยเป็นรูปแบบต่างๆ โดยอาศัยเรียนจากหนังสือควบคู่กันไป  

        หลังจากที่ได้พวงมาลัยแบบที่ต้องการแล้ว ณิชชฎา ก็ได้เปิดขายผ่านออนไลน์ตั้งแต่สมัย Hi5 ซึ่งก็มีลูกค้าสั่งซื้อในระดับหนึ่ง แต่เมื่อความนิยมของ Hi5 เริ่มเสื่อมคลายเธอจึงหันมาขายทางเฟชบุ๊กแทน โดยตั้งชื่อเพจว่า “พวงมาลัยภาณุมาศ” ซึ่งความสวยงามของพวงมาลัยที่ผ่านการร้อยมาอย่างประณีตนี้ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากเดิมได้มากกว่า 10 เท่า ขายได้ถึงหลักร้อยหลักพันบาทต่อชิ้น และด้วยเอกลักษณ์ของพวงมาลัยที่ร้านนี้จึงเป็นที่นิยมของลูกค้าอย่างรวดเร็ว แถมยังมีดาราคนดังอย่างใหม่ ดาวิกา, แอฟ ทักษอร มาอุดหนุนอีกด้วย ก็ยิ่งช่วยทำให้ร้านเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นไปอีก

        ในส่วนของเทคนิคการขายออนไลน์ผ่านทางเฟชบุ๊กที่ณิชชฎาใช้ ไม่ได้มีอะไรที่ยุ่งยากซับซ้อนมากเกินไป เพราะสินค้าที่ขายค่อนข้างตอบโจทย์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งคู่แข่งยังมีไม่มากนัก มีส่วนที่ช่วยเสริมให้ลูกค้าติดใจก็คือ ด้านการบริการ ที่จะคอยถามตอบลูกค้าอย่างเป็นกันเองให้รายละเอียดครบถ้วน รวมไปถึงเรื่องของการจัดส่งที่ทำได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้หลายช่องทางทั้งแมสเซ็นเจอร์ แท็กซี่ รถทัวร์ เครื่องบิน รถตู้  เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะได้รับไม่เกินหนึ่งวัน ซึ่งทั้งหมดนี้ประกอบรวมกันทำให้มีลูกค้ามาอุดหนุนร้านอย่างต่อเนื่องแถมยังบอกต่อแบบปากต่อปากไปอีกทอด    

      สำหรับพวงมาลัยของร้านภาณุมาศ มีมากมายหลากหลายแบบ ราคาเริ่มต้นที่หนึ่งร้อยต้นๆ จนไปถึงหลักพันบาท นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถสั่งทำแบบพิเศษได้ โดยนอกนี้ยังมี ต่างหูชายมาลัยดินปั้น จำหน่ายพร้อมกันอีกด้วย โดยจำหน่ายผ่ายทาง www.facebook.com/malaipanumad ที่มีคนกดไลท์กว่า 30,000 คน และมีหน้าร้านอยู่ที่ตลาดสี่มุมเมืองรังสิต ซึ่งสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 100,000 บาทต่อเดือน

        ณิชชฎา นับเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของผู้ประกอบการที่รู้จักต่อยอดและพัฒนาสินค้าดั้งเดิมของตัวเองออกมาให้ทันสมัยและตอบโจทย์ผู้บริโภค ผสมผสานกับการใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการทำการตลาดออนไลน์ จนส่งผลให้ธุรกิจเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน

ภาพจาก www.facebook.com/malaipanumad