สำหรับจุดเริ่มต้นของร้านสมใจ ต้องย้อนกลับไปเมื่อปีพ.ศ. 2498 ที่ “คุณยายสมใจ” ได้เปิดร้านขายหนังสือและวรรณกรรมเป็นครั้งแรก แต่ธุรกิจไปได้ไม่ค่อยดี จึงได้เปลี่ยนมาขายเครื่องเขียนสำหรับนักเรียนแทน โดยอาศัยขายในราคาเป็นมิตร มีกำไรเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งจุดนี้เองทำให้ลูกค้าติดใจนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ก็สามารถขยายสาขาไปได้ทั้งหมด 12 แห่ง ทั่วประเทศ เมื่อ วิภวานี วิทยานนท์” และ “นพนารี พัวรัตนอรุณกร” ทายาทธุรกิจรุ่นที่ 3 ของร้านสมใจ เข้ามาดูแลธุรกิจ ทั้งสอง ก็ได้ปรับเปลี่ยนการบริหารในหลายๆ ส่วนขององค์กร ตั้งแต่ระบบการขายผ่านหน้าร้านที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยจัดการมากขึ้น พร้อมทั้งขยายฐานลูกค้าไปสู้ตลาดอีคอมเมิร์ซ โดยใช้เว็บไซต์ www.somjai.co.th เป็นตัวชูโรงบนโลกออนไลน์ ซึ่งใช้เวลาแรมปีในการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์จนได้เปิดตัวเมื่อช่วงปลายปี 2559 ที่ผ่านมา
“ทุกวันนี้ธุรกิจมันโตทางออนไลน์กันหมด เราเลยอยากจะทำเว็บขายออนไลน์ขึ้นมา โดยใช้ Amazon.com เป็นโมเดลในการออกแบบโครงสร้างเว็บ แล้วนำมาปรับแต่งให้เข้ากับธุรกิจ โดยมีการจัด category สินค้า แบบเดียวกับหน้าร้านที่ขายให้ลูกค้า เพื่อให้เขาไม่สับสนในการเลือกซื้อ และเรายังทำระบบชำระเงินผ่านเว็บฯ ช่วยให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายมากขึ้น เรียกได้ว่า ซื้อครบจบได้ในเว็บฯ เดียว” นพนารี กล่าวเสริม
นพนารี ให้เหตุผลในการที่เลือกขายผ่านเว็บฯ มากกว่าใช้ Social commerce หรือการขายผ่านเฟชบุ๊ก ไลน์ และอินสตราแกรม ว่า เนื่องจากช่องทางโซเชี่ยลมีเดียเหล่านี้ ต้องใช้พนักงานหลายคนที่ต้องคอยโต้ตอบกับลูกค้า รวมถึงการรับซื้อออร์เดอร์ก็ทำได้จำกัด เธอจึงมองว่าเว็บฯ ตอบโจทย์ธุรกิจได้มากกว่าในระยะยาว แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังคงให้ความสำคัญกับโซเชี่ยลมีเดีย เพราะยอดสั่งซื้อออนไลน์กว่า 50% ได้จากช่องทางนี้ ดังนั้นจึงมีการทำการตลาดอยู่อย่างสม่ำเสมอ
สำหรับตัวเว็บไซต์ www.somjai.co.th นั้น จะประกอบไปด้วยสินค้าหลายหมวด ทั้งเครื่องเขียน อุปกรณ์สำนักงาน กระดาษ งาน DIY และโมเดล เป็นต้น โดยมีสินค้ามากกว่า 5,000 รายการ ในส่วนของการออกแบบจะเน้นความเรียบง่ายสไตล์มินิมอล เป็นมิตรต่อการใช้งาน เลือกใช้โทนสีเขียวและขาวเป็นหลัก เพื่อให้สอดคล้องกับโลโก้แบรนด์และง่ายแก่การจดจำ
เมื่อเพิ่มช่องทางการขายผ่านทางออนไลน์แล้ว สิ่งที่จะต้องทำตามมานั่นก็คือ การจัดการด้านการขนส่งและการแพ็คของ ร้านสมใจจึงได้ไปร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับไปรษณีย์ไทย ที่จะเข้ามาช่วยในการกระจายสินค้า รวมถึงเข้ามาอบรมในการแพ็คของ พร้อมให้ความรู้เรื่องการคำนวณค่าขนส่ง ทำให้ลดปัญหาด้านโลจิสติกส์ได้มากพอสมควร
หลังจากเปิดตัวเว็บฯได้ 6 เดือน ก็มียอดขายเพิ่มขึ้น 5% ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่ไม่มากนัก แต่ทั้งวิภวานี และ นพนารี ต่างก็เชื่อว่าในระยะยาวก็จะสามารถเติบโตได้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่ตั้งเป้าหมายให้ www.somjai.co.th เป็นเว็บฯ Amazon.com แห่งเครื่องเขียน ซึ่งจะมีการเพิ่มศักยภาพการทำตลาดให้มากขึ้น แม้ว่าจะรุกตลาดออนไลน์มากขึ้นแต่ทั้งคู่ก็ยังให้ความสำคัญกับการขายผ่านหน้าร้าน
“เป็นไปไม่ได้ที่ธุรกิจร้านสมใจจะมีรายได้จากการขายผ่านออนไลน์เท่านั้น เพียงแต่ต้องการให้อีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มของเราเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการซื้อสินค้า เพราะว่าทางออฟไลน์และออนไลน์จะต้องเติบโตควบคู่กันไป ไม่จำเป็นที่จะต้องเหลือเพียงอย่างเดียว” วิภวานี กล่าวทิ้งท้าย ภาพจาก www.ecommerceiq.asia และ www.somjai.co.th