นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าได้เร่งผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอย่างต่อเนื่องตลอดปีนี้ โดยเน้นสร้างรายได้ให้พื้นที่ชุมชน เชื่อมโยงการท่องเที่ยว กระจายรายได้อย่างทั่วถึงในเมืองรองต่างๆ รวมทั้งส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ให้แข่งขันได้ในระดับสากล นำมาสู่การเป็นเครื่องมือสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยและสัดส่วนมูลค่าหลักของผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) มากกว่า 50% ภายในปี 2564 “ช่วงครึ่งปีหลังนี้จะเร่งสานต่อโครงการต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และกระจายเม็ดเงินทั่วถึงในทุกพื้นที่ชุมชน เนื่องจากโครงการที่กระทรวงเปิดตัวในครึ่งปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จ สามารถวัดผลได้ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดทุเรียน ซึ่งกลายเป็นตลาดแม่เหล็กสำคัญดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวจีน ซึ่งช่วยกระจายรายได้ลงชุมชน ผ่านการเชื่อมโยงการท่องเที่ยว” นายสนธิรัตน์ กล่าวเสริม สำหรับแผนงานครึ่งปีหลังเตรียมเปิดตัวตลาดแม็กเนตใหม่ คือ ตลาดซีฟู้ด ขนาดใหญ่แห่งแรกในไทย คาดว่าจะใช้พื้นที่ตลาดทะเลไทย บริเวณมหาชัย จ.สมุทรสาคร นำร่องเปิดให้บริการเป็นแห่งแรก ในเดือน ก.ย.นี้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ ได้เปลี่ยนโปรแกรมไปกินอาหารทะเลสดๆ กระจายรายได้ให้กับชุมชน ร้านค้าในพื้นที่นอกเมืองมากขึ้น โดยปีนี้ตั้งเป้าเปิดตลาดซีฟู้ดในไทย 2 แห่ง

        นอกจากตลาดทะเลไทยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างสำรวจพื้นที่ใน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเปิดแห่งที่ 2 โดยวางเป้าหมายให้สุราษฎร์ธานีเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวทะเลภาคใต้ ต้องวางโปรแกรมเพื่อไปกินอาหารทะเลสดๆ และมีไฮไลต์สำคัญ คือ หอยนางรม ซึ่งเป็นของดีประจำจังหวัด โจทย์การเปิดตลาดซีฟู้ด รัฐบาลตั้งใจกระจายรายได้เข้าถึงชุมชนและต้องไม่กระทบกับผู้ประกอบการที่อยู่ในพื้นที่เดิม แนวทางขณะนี้จึงอยู่ระหว่างหารือกับผู้ประกอบการในพื้นที่ ว่าจะสามารถรวมกันเป็นคลัสเตอร์ซีฟู้ดได้หรือไม่ ทั้งนี้ แผนงานเปิดตลาดซีฟู้ดที่ล่าช้ากว่ากำหนด เพราะติดปัญหาเรื่องพื้นที่ แต่จะเร่งให้ได้ 2 แห่งในปีนี้ พร้อมทั้งจะเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ตลาดซีฟู้ด เบื้องต้นทาบทามนักร้องชื่อดัง หน้ากากหอยนางรม (โอม Cocktail) มาร่วมกันโปรโมทตลาดและสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เนื่องจากเป้าหมายสำคัญในการทำงานของกระทรวงหลังจากนี้คือการสร้างแบรนด์สินค้าชุมชนของไทยให้เป็นที่รู้จักและขยายการส่งออกมากขึ้น