นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า ภายหลังที่มีมาตรการลดหย่อนภาษี 300% ให้แก่ผู้ประกอบการที่นำค่าใช้จ่ายการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรม (อาร์แอนด์ดี) ทำให้มีบริษัทขอเข้าร่วมจำนวน 100 บริษัท/ปี หรือเฉลี่ยจำนวน 350-400 โครงการ/ปี ถือว่ามีจำนวนสูงขึ้น ซึ่งบริษัทที่เข้ามาร่วมโครงการ แบ่งเป็น บริษัทเดิมสัดส่วน 75% และบริษัทใหม่ 25%

ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ประกอบการที่เข้ามาร่วมโครงการจะเป็นทั้ง ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ เอสเอ็มอี ซึ่งผลการดำเนินโครงการในปี 2545 มีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการจำนวน 352 ราย จำนวนโครงการรวม 3,940 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1.55 หมื่นล้านบาท และมีโครงการที่ผ่านการพิจารณาแล้ว 3,633 โครงการ มีมูลค่าการรับรองกว่า 1.25 หมื่นล้านบาท ส่วนในปี 2558-2559 ที่ผ่านมา มูลค่ารวมกว่า 1 หมื่นล้านบาทแล้ว

      ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่เข้ามาร่วมโครงการในปีแรก มีแนวโน้มที่จะเข้ามาร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อประเทศ และผลงานวิจัยที่เกิดขึ้นได้สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ รวมถึงเป็นผลดีต่อการยกระดับความสามารถแข่งขันของประเทศ ส่วนบริษัทที่เข้ามายื่นและไม่ผ่านหลักเกณฑ์ มีประมาณ 1% เท่านั้น เนื่องจากขอยื่นโครงการที่ไม่ได้เกี่ยวข้องด้านการวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

      ทั้งนี้ สวทช.เป็นหน่วยงานวิจัยที่ทำหน้าที่ตรวจสอบและรับรองโครงการวิจัยเป็นรายโครงการแบบเดิม พร้อมกันนี้ ยังร่วมตรวจประเมินและรับรองระบบบริหารการวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรม หรืออาร์ดีไอเอ็มเอส ทำให้ผู้ประกอบการที่ผ่านการรับรองและขึ้นทะเบียนเป็นผู้ใช้สิทธิกับ สวทช. สามารถรับรองตนเองในโครงการวิจัยที่มีมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาทได้ อย่างไรก็ตาม ทาง สวทช.ได้ร่วมมือกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยมอบใบรับรองระบบบริหารการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ให้กับ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี ที่สามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษี 300% ได้ด้วยตนเอง เป็นรายแรกของไทยในโครงการวิจัยที่มีมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท เชื่อมั่นว่าจะทำให้บริษัทสามารถนำข้อกำหนดของระบบไปใช้ให้สอดคล้องกับการวิจัย พัฒนา และสร้างนวัตกรรมได้