นายวิชัย โภชนกิจ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการประเมินพื้นที่นาข้าวประสบความเสียหายจากอุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) พบว่าพื้นที่ปลูกข้าวเหนียวในภาคอีสานกว่า 1 ล้านไร่ได้รับความเสียหาย และคาดว่าผลผลิตข้าวเหนียวจะหายไปประมาณ 20% ของปริมาณข้าวเหนียวทั้งหมด   ซึ่งจะทำให้ผลผลิตข้าวเหนียวนาปี ฤดูกาล 2560/2561 ที่จะออกช่วงปลายปีนี้ มีราคาสูงขึ้น แต่เกษตรกรจะไม่ได้รับประโยชน์จากราคาที่ปรับขึ้น เพราะไม่มีผลผลิตจำหน่าย ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบและได้ทำประกันความเสียหายจากน้ำท่วม เพื่อจะได้นำเงินไปปลูกข้าวรอบใหม่หรือปลูกพืชชนิดอื่นๆ ชดเชยต่อไป

นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ผลผลิตข้าวเหนียวคาดว่าจะออกมาในช่วงเดือน ต.ค. 2560 ถึงเดือน ม.ค. 2561 แม้ว่าจะมีพื้นที่เพาะปลูกได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่เชื่อว่ายังมีพื้นที่ดอนที่ผลผลิตจะยังออกมาได้ ส่วนพื้นที่ถูกน้ำท่วมก็ต้องดูว่าเป็นที่นาจมน้ำแบบขังยาวนานหรือแค่ท่วมแบบไหลผ่าน ส่วนราคาข้าวเหนียวเปลือกความชื้น 27-28% ราคารับซื้ออยู่ที่ 7,000 บาท/ตัน   ในพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการหว่านซ่อมของชาวนาหลังน้ำลดในข้าวทุกประเภทว่าจะสามารถหว่านได้ในช่วงไหน เพราะจะมีผลต่อคุณภาพข้าวที่จะออกมาในฤดูกาลหน้า ทั้งข้าวเหนียว ข้าวหอมมะลิ อย่างไรก็ตามแม้ว่าผลผลิตจะออกมาน้อย แต่หากคุณภาพไม่ดีราคาซื้อขายก็จะไม่ดีตามไปด้วย

      นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา ถือเป็นฤดูกาลปลูกข้าวนาปีในภาคอีสาน ซึ่งจะเริ่มปลูกในเดือน ส.ค. และเก็บเกี่ยวช่วงเดือน ธ.ค.ของทุกปี โดยน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ทำให้ผลผลิตข้าวออกสู่ตลาดช้ากว่าปกติ กระทบการลงทุนปลูกข้าวใหม่ แต่เชื่อว่าจะไม่เป็นผลกระทบต่อภาพรวมตลาดข้าวเพราะยังปลูกข้าวได้ใหม่แต่เก็บเกี่ยวได้ช้า