นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มี พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธาน ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า นายกฯมอบนโยบายให้ทุกหน่วยช่วยกันวางโครงสร้างพื้นฐาน โดยดีอีตั้งเป้าวางเครือข่ายบรอดแบนด์หรืออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 24,700 หมู่บ้านทั่วประเทศ
โดย 3 เดือนที่ผ่านมาวางไปได้กว่า 15,000 หมู่บ้านแล้ว คาดว่าไม่เกินเดือนธันวาคม จะสามารถทำได้ตามเป้าหมาย ส่วนที่เหลืออีก 18,000 หมู่บ้าน ทางสำนักงาน กสทช.จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 2561 ดังนั้นภายในปี 2561 ประเทศไทยจะมีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงครอบคลุมทุกหมู่บ้านทั้ง 75,000 หมู่บ้าน
นอกจากนี้จะมีการวางเครือข่ายเคเบิลใต้น้ำเพิ่มเติม ดำเนินการโดยบริษัท กสท โทรคมนาคม เพิ่มเติมความจุภายในประเทศ เพิ่มเติมความจุที่ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว กัมพูชา เมียนมา เพื่อเชื่อมไปยังฮ่องกง ซึ่งอยู่ระหว่างหารือกับผู้ร่วมทุน ส่วนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (สมาร์ทซิตี้) ที่ประชุมให้ความเห็นชอบแนวทางการพัฒนานำร่อง 7 จังหวัด อาทิ กรุงเทพฯ ภูเก็ต และขยายไปเชียงใหม่ ขอนแก่น และนายกฯให้ขยายไปยังสำหรับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซีใน 3 จังหวัด ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และมีแผนขยายครอบคลุมพื้นที่ 77 จังหวัดภายใน 5 ปี
นายพิเชฐกล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบแผนปฏิบัติการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระยะเวลา 5 ปี (2560-2564) และแผนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ ระยะเวลา 5 ปี (2560-2564) โดยกระทรวงพาณิชย์ นอกจากนี้ที่ประชุมอนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ดำเนินโครงการติดตั้งระบบโครงข่ายโทรคมนาคม และโครงข่ายเคเบิลใยแก้วแบบโครงข่ายปิด และจัดให้มีระบบสำรองโครงข่าย
โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกับบริษัทโครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ กับโครงการเน็ตประชารัฐ และศูนย์ดิจิทัลชุมชน เพื่อให้ระบบโครงข่ายและอุปกรณ์ทั้งหลายได้ใช้อย่างบูรณาการมีความคุ้มค่า ไม่เกิดความซ้ำซ้อน และลดต้นทุน นายกฯขอให้คำนึงถึงความคุ้มค่าในการดำเนินการและเน้นการใช้ประโยชน์ของโครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน
