โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

วุ้นกะทิแฟนซี รูปแบบมีไม่จำกัด!

“หากคุณมัวแต่ฟังคนที่พูดจาทำร้ายคุณ และหยุดอยู่แค่นั้น

คุณจะไม่มีวันประสบความสำเร็จ” 

จากพนักงานประจำ ต้องออกจากงานเพราะ ท้อง! สามีต้องทำงานหาเลี้ยงคนทั้งครอบครัว ซึ่งบอกได้เลยว่า ในยุคที่ข้าวยากหมากแพง ไม่พอแน่นอน! กับปากท้องของคนหลายชีวิต ด้วยเงินที่มีอยู่หลักพัน ทำให้ คุณวิไลวรรณ มีเงิน ต้องหาอาชีพที่ลงทุนต่ำ ทำง่ายๆ และทำด้วยตัวเองได้ นั่นก็คือ วุ้นกะทิ วุ้นกะทิเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว เป็นขนมวานของไทย ที่มีรูปแบบและสีสันแตกต่างกันไปตามไอเดียของคนทำ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ รูปสัตว์น่ารักๆ อย่างเป็ดและกระต่าย ที่สำคัญทำง่ายมากๆ ด้วยอุปกรณ์ลัวัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่าง คุณวิไลวรรณ จึงเริ่มทำวุ้นกะทิรูปแบบเดิมๆ ออกมาขาย แต่รายได้ก็ไม่ได้มากนัก จึงลองค้นหารูปแบบจากอินเตอร์เน็ต และปิ๊งไอเดียสุดยอดไอเดียแรก นั่นก็คือ วุ้นกะทิน้องหมา! หรือ วุ้นหมานั่นเอง วุ้นหมา เริ่มออกมาวางจำหน่ายวันแรก ก็มียอดขายถล่มทลาย อย่างคาดไม่ถึง มียอดสั่งซื้อ สั่งจองมากกว่า 100 ชิ้นต่อวัน ซึ่งมากกว่าวุ้นกะทิแบบเดิมๆ หลายเท่า หลังจากนั้นก็มีคอลเลคชั่นใหม่ออก กลายเป็นที่ฮือฮาอีกรอบ กับวุ้นอุนจิ แต่.. งานเข้าอย่างแรง เพราะการขายบนออนไลน์ ทำให้เธอถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานาๆ ทั้งด้านลบ และด้านบวก “ไม่คิดว่าทำวุ้นแปลกๆ ออกมาแล้ว กระแสตอบรับจะดีมากขนาดนี้ โดนถล่มด่าหนักมากเหมือนกันบนออนไลน์ ว่ารูปแบบไม่เหมาะที่จะเป็นอาหารบ้าง ไม่น่ากินบ้าง ถามว่าท้อไหม แรกๆ ท้อมากค่ะ แต่ลองมาคิดดูอีกที กระแสดีๆ มีมาเพียบเหมือนกัน บอกว่าไอเดียเราดี เป็นเจ้าแรกที่เคยเห็น และที่สำคัญ ยอดขายที่เพิ่มขึ้น ทำให้เรามีรายได้ จึงไม่อยากมอง อยากฟังอะไรที่ทำลายความรู้สึกตัวเอง” คุณวิไลวรรณ กล่าว ซึ่งปัจจุบัน คุณวิไลวรรณ ได้ต่อยอดธุรกิจออกไปเรื่อยๆ ปล่อยคอลลเลคชั่นวุ้นกะทิใหม่ๆ ออกมา และกลายเป็นกระแสทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น วุ้นวรนุช วุ้นกะโหลก วุ้นมือขาด และรูปแบบน่ารักๆ อย่างไข่ขี้เกียจ วุ้นกระต่าย ก็มีเช่นกัน นอกจากรูปลักษณ์ที่สวยงาม คุณวิไลวรรณ บอกว่า เรื่องของรสชาติก็สำคัญมากเช่นกัน ทางร้านจะเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ และมีเคล็ดลับเฉพาะที่ทำให้รสชาติของวุ้นกะทอนั้นหอมอร่อย และไม่บูดง่าย โดยหลีกเลี่ยงการใช้สารกันบูด และที่สำคัญที่สุดคือ เรื่องของราคา จะเริ่มต้นที่ 35 บาท ต่อชิ้นเท่านั้น โดยยอดขายตอนนี้ต่อวันมากกว่า 200 ชิ้น และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีรูปแบบแปลกๆ ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดตลอดเวลา จากธุรกิจกระแสสู่อาชีพหลัก และกลายเป็น ของดีเมืองปทุม ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรียกได้ว่าขายได้ ขายดี ไม่มีเวลาพักกันเลยทีเดียว

ตัวอย่างมีให้เห็นกันแล้ว ลองนำไอเดีย การคิดต่าง ไปใช้กับตัวคุณ ธุรกิจของคุณ แล้วมาดูกันว่า คุณ! จะประสบความสำเร็จเหมือนกับเธอบ้างหรือเปล่า ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่า ปัง หรือ พัง!