โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

พ่อหลวง ร.๙ ต้นแบบของความพอเพียง

1) ดินสอไม้ทรงงาน ทรงใช้ดินสอไม้ในการทรงงานต่างๆ และจะใช้จนกุดสั้น ดังเช่นที่มีคำบอกเล่าจาก กองงานในพระองค์ คือ ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ บอกว่าปีหนึ่งพระองค์ทรงเบิกดินสอ ๑๒ แท่ง เดือนละแท่ง ใช้จนกระทั่งกุด ใครอย่าไปทิ้งของท่านนะจะกริ้วเลยโดยทรงประหยัดทุกอย่าง ทรงใช้ดินสอไม้ราคาไม่แพง มียางลบ ติดอยู่ตรงปลายดินสอเพื่อลบคำที่เขียนผิด ออกได้ง่าย ไม่เปลืองกระดาษเหมือนใช้ปากกา และจะทรงเหลาดินสอด้วยพระองค์เอง เหน็บไว้ที่กระเป๋าฉลองพระองค์เดือนละนึ่งแท่ง ใช้จนกุดสั้น Cr.ภาพ http://www.tvbento.com
  1. หลอดยาสีพระทนต์
ดร.สุเมธ  ตันติเวชกุล  เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้เล่าไว้ในหนังสือตามรอยพระยุคลบาท ครูแห่งแผ่นดิน  (๒๕๕๖, หน้า ๙๔) ความตอนหนึ่งว่า "พระองค์ทรงไม่ยึดติดกับวัตถุ ทรงประหยัดมาก คงเคยเห็นภาพหลอดยาสีฟัน พระองค์ทรงบีบหลอดยาสีฟันจนลีบ มหาดเล็กเชิญออก นำหลอดใหม่มาวาง ทรงมีรับสั่งให้นำกลับมา แล้วรับสั่งกับทันตแพทย์ว่าที่เหลืออยู่นี้ฉันใช้ต่อได้อีก ๕ วัน" Cr.ภาพ https://baabin.com
  1. ไม่โปรดการสวมใส่เครื่องประดับมากมาย สวมเพียงนาฬิกาข้อมือ
เวลาเสด็จฯ ปฏิบัติพระราชกรณียกิจ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไม่โปรดสวมเครื่องประดับ แหวน สร้อยใดๆ ทรงสวมเพียงนาฬิกาข้อพระหัตถ์ เท่านั้น ดร.สุเมธ  ตันติเวชกุล  เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้เล่าไว้ในหนังสือตามรอยพระยุคลบาท ครูแห่งแผ่นดิน  (๒๕๕๖, หน้า ๘๘) ความตอนหนึ่งว่า "เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๔ เข้าไปถวายงานใหม่ๆ พยายามมองพระเจ้าอยู่หัว มองจนทรงรู้สึกพระองค์ มองที่ข้อพระหัตถ์อยากรู้ว่าทรงใช้นาฬิกาอะไร ทรงยื่นให้ดูแล้วรับสั่งว่ายี่ห้อใส่แล้วโก้ พระเจ้าอยู่หัวทรงใช้นาฬิกาเรือนละ ๗๕๐ บาท"
  1. ทุกครั้งที่เสด็จฯ ไปยังสถานต่างๆ จะทรงมีสิ่งของประจำพระองค์อยู่ 3 สิ่ง คือแผนที่ซึ่งทรงทำขึ้นเอง (ตัดต่อเอง ปะกาวเอง) กล้องถ่ายรูป และดินสอที่มียางลบ
พระราชจริยวัตรเรียบง่าย ของ ในหลวง รัชกาลที่ 9 Cr.ภาพ http://www.tvpoolonline.com
  1. รถยนต์พระที่นั่งแสนเรียบง่าย
คุณอนันต์ ร่มรื่นวาณิชกิจ ช่างดูแลรถยนต์พระที่นั่ง เล่าว่า "ภายในรถยนต์พระที่นั่งเรียบง่ายมาก มีเพียงถังขยะเล็ก ๆ กับที่ทรงงานเท่านั้น ครั้งหนึ่งมีรถยนต์พระที่นั่งเพิ่งทรงใช้ในพระราชกรณียกิจมาทำ เห็นว่า พรมใต้รถมีน้ำแฉะขังอยู่และมีกลิ่นเหม็นด้วย แสดงว่า พระองค์ท่านทรงนำรถไปประกอบพระราชกรณียกิจในที่น้ำท่วม แถมน้ำยังซึมเข้าไปในรถพระที่นั่งด้วย จึงถามสารถีว่า ทำไมไม่รีบเอารถมาซ่อม ก็ได้คำตอบว่า ต้องรอให้เสร็จพระราชกรณียกิจก่อน ปกติถ้าทรงงานส่วนพระองค์ ท่านก็ใช้รถคันเล็กเพื่อประหยัดน้ำมัน และเมื่อเราสังเกตสีรถพระที่นั่ง จะเห็นว่ามีรอยสีถลอกรอบคันรถ กว่าที่ท่านจะนำมาทำสีใหม่ก็รอบคันแล้ว" Cr.ภาพ http://www.jackpotded.com
  1. ยานพาหนะนะ
ทรงเลือกใช้ยานพาหนะที่ไม่ใช้ เชื้อเพลิงจากฟอสซิล ยามน้ำมันมีราคาสูง รวมถึง พระราชดำรัสที่ว่า "นั่งรถหารสอง" ทรงรับสั่งกับข้าราชบริพารเสมอว่า การนั่งรถคนละคันเป็นการสิ้นเปลือง จึงให้นั่งรวมกัน ไม่โปรดให้มีขบวนรถยาวเหยียด Cr.ภาพ http://www.newtv.co.th
  1. ทรงฉลองพระองค์และสนับเพลา จะทรงใช้จนกว่าจะเก่าและเลือกที่ราคาถูก
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้กล่าวถึงพระราชดำริและพระราชจริยวัตรในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ ได้นำคำกล่าวของกองงานในพระองค์ โดยท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ มาบอกกล่าวให้ฟังว่า "หากนำพระบรมฉายาลักษณ์เก่าๆ มาเปรียบเทียบกันในระยะเวลาห่างกันสิบปี ยี่สิบปี จะสังเกตเห็นได้ว่า ฉลองพระองค์และสนับเพลาหลายองค์ก็ยังทรงใช้อยู่ ดังเช่น ฉลองพระบาทใบ (ร้องเท้าผ้าใบ) ก็ยังทรงใช้แบบเดิม ราคาไม่กี่ร้อยบาท" Cr.ภาพ สปริงนิวส์
  1. ฉลองพระบาทที่ซ่อมไม่ได้อีกต่อไป
จากคำบอกเล่าของนายศรไกร แน่นศรีนิล หรือ "ช่างไก่" ช่างทำรองเท้า ร้าน ก.เปรมศิลป์ ที่ได้มีโอกาสถวายงานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นเวลาหลายสิบปี ทำให้เราชาวไทยได้ทราบว่า แม้แต่ฉลองพระบาทที่เก่าจนแทบซ่อมไม่ได้แล้ว พระองค์ท่านก็ยังไม่ทิ้ง ช่างไก่มีโอกาสได้ถวายงานซ่อมฉลองพระบาทอีกหลายคู่ แต่ละคู่ก็มีอาการแตกต่างกันไป ทั้งพื้นสึก ก็ซ่อมแซมตรงส้น กันพระองค์ลื่น แล้วฉลองพระบาทลำลองขาด ปะตรงรอยที่ขาด บางคู่ก็เป็นรอยสุนัขทรงเลี้ยงกัด แหว่ง ซ่อมแซมตามอาการ Cr.ภาพ https://money.kapook.com
  1. ข้าวผัดไข่ 1 จาน
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้เล่าเมื่อครั้งตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ไปที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เมื่อปี พ.ศ. 2527 ว่า ในวันนั้นได้มีข้าราชการหลายคนกลับมาจากทำภารกิจและได้เข้าไปในโรงครัวเพื่อกินข้าวผัดแห้ง ๆ ติดก้นกระทะ แต่มีข้าวผัดอยู่ 1 จานถูกวางไว้และมีคนจะหยิบไปกิน

ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนบอกว่า จานนั้นเป็นของพระเจ้าอยู่หัว ท่านรับสั่งให้มาตัก ซึ่งประโยคดังกล่าวได้สะท้อนเข้ามาในหัวใจ พร้อมกับคิดว่า ท่านเป็นถึงพระเจ้าแผ่นดินจะรับสั่งให้ทำถวายใหม่เท่าใดก็ได้ แต่ทรงรับสั่งแค่ให้ตักเพียงข้าวผัดติดก้นถาด 1 จาน ทำให้พระองค์ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนรู้คุณค่าของทุกสิ่ง เพราะแค่ข้าวผัดไข่ดาว 1 จาน ก็ต้องใช้ต้องสิ้นเปลืองพลังงานไปเปล่า ๆ

Cr.ภาพ https://money.kapook.com