ต่อที่ 1 คือการกู้ยืมไม่มีดอกเบี้ย ต่อที่ 2 เมื่อนำเงินกู้ยืมไปพัฒนาทักษะให้กับพนักงาน ทำให้สถานประกอบกิจการมีพนักงานที่มีทักษะและศักยภาพในการทำงานสูงขึ้น ต่อที่ 3 สามารถนับยอดจำนวนพนักงานที่ได้รับการพัฒนาทักษะในครั้งนี้ ไปประเมินเงินสมทบปลายปีได้อีกด้วย และค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปเพื่อการฝึกอบรมพนักงานทั้งหมด สามารถยื่นรับรองเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีเป็นต่อที่ 4 ที่ได้รับ หากต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ที่มากไปกว่านี้อีก กพร.ก็มีจัดให้เช่นกัน อาทิ การฝึกอบรมพนักงานที่เกี่ยวกับการสร้างสรรค์นวัตกรรม หรือนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิตสินค้าหรือบริการ มีสิทธิรับเงินอุดหนุนเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินปีละ 100,000 บาท เป็นต้น

        การให้กู้ยืมและการให้เงินช่วยเหลือหรืออุดหนุนแก่สถานประกอบกิจการดังกล่าวนั้น เป็นการดำเนินงานภายใต้นโยบายเร่งด่วนของพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อพัฒนาและยกระดับทักษะฝีมือแรงงานไทยให้สูงขึ้นและมีขีดความสามารถในการแข่งขัน และเป็นการร่วมกันขับเคลื่อนประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0 อีกด้วย ปัจจุบันได้จ่ายเงินอุดหนุนไปแล้วกว่า 700,000 บาท นางเอื้อมพร โศจิพลกุล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานประกอบกิจการที่อยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร สามารถติดต่อขอกู้เงินดังกล่าวได้ ซึ่งปัจจุบันได้แบ่งเขตพื้นที่รับผิดชอบถึง 5 เขต เพื่อให้บริการสถานประกอบกิจการได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ทั้งการรับรองหลักสูตร และค่าใช้จ่าย ตลอดจนการให้คำแนะนำในการประเมินเงินสมทบที่ต้องปฏิบัติภายใต้ พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 และแก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2557 จึงต้องการเชิญชวนสถานประกอบกิจการมาใช้สิทธิในส่วนนี้

สำหรับสถานประกอบกิจการทั่วประเทศ ที่ต้องการกู้ยืมเงินกองทุน หรือขอรับเงินช่วยเหลือหรืออุดหนุนจากกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน สามารถติดต่อได้ที่สถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0 2643 4977