สำหรับการจัดงานครั้งนี้ระหว่างวันที่ 21-25 ก.พ. 61 เน้นแนวคิดการส่งเสริมหัตถศิลป์ มรดกทางวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมงานศิลป์ไทยให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกมากขึ้น เพราะนอกจากเป็นงานฝีมือที่ประณีตแล้ว ยังมีเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ การนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ จากสตาร์ทอัพ และงานครั้งนี้จะมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายใหม่เข้าร่วมกว่า 120 ราย
ซึ่งอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับเป็นอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงและมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจประเทศอย่างมาก โดยมีการจ้างงานกว่า 1.2 ล้านคน ดังนั้นรัฐบาลจะเร่งดำเนินการส่งเสริมเพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับโลก
ขณะเดียวกันกระทรวงจะเร่งพัฒนาขีดความสามารถแข่งขันของผู้ประกอบการ และการหาช่องทางการตลาดตามแทรนด์สินค้าใหม่ๆ ซึ่งการจัดงานนี้ถือว่าเป็นเวทีการค้าสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยทุกระดับสามารถเจรจาการค้ากับนักธุรกิจจากทั่วโลก
ทั้งนี้ ทางกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) จะเปิดตัวเครื่องหมายรับรองคุณภาพเพื่อเพิ่มความมั่นใจการซื้อเครื่องประดับไทยของนักท่องเที่ยว โดยจะนำร่องที่จังหวัดจันทบุรี เป็นที่แรกกลางเดือนมีนาคมนี้