ข่าวดีสำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ครม.อัดงบ 38,000 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติม เพื่อลดภาระค่าครองชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตด้วย 4 มาตรการ โดยให้ความช่วยเหลือ จำนวน 10 เดือน (ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 – กันยายน 2562)

1.มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า และค่าน้ำประปา 10 เดือน

ค่าไฟฟ้า ผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ใช้สิทธิจากมาตรการค่าไฟฟ้าฟรี (ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน) ให้ใช้สิทธิค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบัน หากใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน ให้ใช้สิทธิตามมาตรการใหม่ ซึ่งต้องใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน หากใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีสิทธิต้องเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด
ค่าน้ำประปา ผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับสิทธิช่วยเหลือค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน หากใช้น้ำประปาเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีสิทธิต้องเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด

2.มาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปีให้แก่ผู้มีรายได้น้อย จำนวน 500 บาทต่อคน
ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 14.5 ล้านคน ได้ได้รับเงินเข้าบัญชีจำนวน 500 บาท โดยกรมบัญชีกลางจะทยอยจ่ายเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ให้กับผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว จำนวน 11.4 ล้านคน ภายในวันที่ 8-10 ธันวาคม 2561 และจะจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ในปี 2560 ในวันที่ 5 มกราคม 2562 และ 1 กุมภาพันธ์ 2562

3.มาตรการช่วยเหลือค่าเช่าบ้านเดือนละ 400 บาท สำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่มีอายุครบ 60 ปีขึ้นไป
ผู้สูงอายุที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ระหว่างเดือนธันวาคม 2561 – กันยายน 2562 และต้องเช่าที่อยู่อาศัยหรือไม่มีที่อยู่อาศัย รัฐจะช่วยเหลือค่าเช่าบ้านให้ผู้สูงอายุเดือนละ 400 บาท ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 -– กันยายน 2562 เป็นระยะเวลา 10 เดือน ผ่านการโอนเงินเข้าบัญชีสวัสดิการแห่งรัฐ โดยกรมบัญชีกลางจะโอนเงินให้กับผู้มีสิทธิ ทุกวันที่ 12 ของเดือน (เริ่มจ่ายเดือนแรก 12 ธันวาคม 2561)

4.มาตรการช่วยเหลือค่าเดินทางไปรักาพยาบาล 1,000 บาท สำหรับผู้มีสิทธิที่มีอายุครบ 65 ปีขึ้นไป

กรมบัญชีกลางจะโอนเงินเข้ากระเป๋าเงิน e-Money ให้กับผู้มีสิทธิที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว ทุกวันที่ 21 ของเดือน (เริ่มจ่ายเดือนแรก 21 ธันวาคม 2561)ทั้งนี้ หากผู้มีสิทธิรายใดมีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ในระหว่างเดือนธันวาคม 2561 – กันยายน 2562 จะได้รับเงินวันที่ 21 ของเดือนเกิด สำหรับผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน จะเริ่มจ่ายในวันที่ 5 มกราคม 2562 และ 1 กุมภาพันธ์ 2562 หลังจากนั้นจะได้รับเงินทุกวันที่ 21 ของเดือนเกิดเช่นเดียวกัน