พาณิชย์ จัดหนัก จับมือเอกชน “ลดหนักจัดเต็ม New Year Grand Sale” 13 ธ.ค. – 9 ม.ค.62 ลดราคาจำหน่ายสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม หมวดของใช้ประจำวัน สูงสุด 80% กับห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ในทุกสาขาทั่วประเทศ
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับภาคเอกชน จัดมหกรรมลดราคาสินค้าภายใต้ชื่องาน “ลดหนักจัดเต็ม New Year Grand Sale” ลดราคาจำหน่ายสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม หมวดของใช้ประจำวัน สูงสุด 80% กับห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ในทุกสาขาทั่วประเทศ
ซึ่งในครั้งนี้ดึงร้านธงฟ้า ร้านค้าชุมชนท้องถิ่นเข้าร่วมงานครั้งแรก หวังกระจายการจับจ่ายซื้อสินค้า กระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น งานมีขึ้นระหว่างวันที่ 13 ธันวาคม 2561 – 9 มกราคม 2562 รวมระยะเวลา 28 วัน
โดยงานนี้ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนจำนวน 34 ราย ประกอบด้วย สมาคม จำนวน 2 สมาคมสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และสมาคมการค้าส่ง – ปลีกไทย ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ ในเบื้องต้นจำนวน 14 ราย รวมแล้วกว่า 15,000 สาขา และร้านธงฟ้าอีก 30,000 ร้านค้า
ทั้งนี้ คาดว่าตลอดงานจะมียอดขายประมาณ 55,000 ล้านบาท สามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพ ประชาชนได้เฉลี่ย 30% หรือคิดเป็นเงินประมาณ 16,500 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้นเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีเสถียรภาพอีกด้วย
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ยังได้จัดกิจกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคในจังหวัดภาคเหนือและภาคกลาง เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนอีก 4 จังหวัด ได้แก่ จ.นครสวรรค์ วันที่ 9 – 10 ธันวาคม 2561, จ.สิงห์บุรี วันที่ 18 – 21 ธันวาคม 2561, กระทรวงพาณิชย์ จ.นนทบุรี วันที่ 24 – 27 ธันวาคม 2561 และ จ.สุพรรณบุรี วันที่ 4 – 7 มกราคม 2562 ส่วนแผนการจัดงานที่เหลืออีก 15 จังหวัด ในพื้นที่ภาคกลาง 4 จังหวัด ภาคใต้ 6 จังหวัด และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด จะจัดในระยะต่อไปอีกด้วย
อีกทั้ง การลงนามความร่วมมือยกระดับการพัฒนา “โครงการธงฟ้าประชารัฐ 4.0” เพื่อให้ร้านธงฟ้าประชารัฐ มีสินค้าและบริการที่ครบถ้วนทันสมัย สามารถแข่งขันกับห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ โดยดึงพันธมิตร เช่น บริษัท ออลล์ ดิสเคาท์ จำกัด เป็นหลักในการประสานงานกับภาคีเครือข่าย รับออร์เดอร์สินค้าจากร้านค้าประชารัฐทั่วประเทศ จัดซื้อสินค้าราคาพิเศษมาจากผู้ผลิตมาจำหน่ายและจัดส่งให้ร้านธงฟ้าประชารัฐทั่วประเทศ จะสามารถลดต้นทุนสินค้า ได้ไม่น้อยกว่า 10% ซึ่งในเบื้องต้นคัดเลือก 100 ร้านค้า
ในกรุงเทพมหานครเป็นร้านต้นแบบ ที่จะส่งเสริมและสร้างศักยภาพในการแข่งขัน นอกจากนี้ ยังให้บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เข้ามาช่วยวางระบบโครงข่ายเชื่อมต่อผ่านอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงทั้งรูปแบบใยแก้วนำแสง และ 4G และพัฒนาระบบบริหารจัดการ จุดขายและจุดชำระเงิน พร้อมทั้งเพิ่มบริการและสินค้าด้วย
อย่างไรก็ดี ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME Development Bank ร่วมสนับสนุนสินเชื่อ ผ่านโครงการประชารัฐเสริมแกร่งการค้าสู่ชุมชน สินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท ให้กับร้านธงฟ้าประชารัฐเพื่อขยายกิจการ หรือสำหรับเป็นทุนหมุนเวียนซื้อสินค้า ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมมอบสินเชื่อเตรียมพร้อมเพิ่มวงเงินหมุนเวียนให้กับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ พร้อมการนำแพลตฟอร์มการปล่อยสินเชื่อออนไลน์มาใช้ เพื่อความรวดเร็วในการอนุมัติสินเชื่อ
โดยการพัฒนาจากบริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และบริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด ร่วมพัฒนาและให้บริการระบบโลจิสติกส์ต่อยอดการให้บริการของไปรษณีย์ไทย ให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น เพิ่มศักยภาพให้บริการขนส่งและกระจายสินค้า รวมทั้งบริหารจัดการคลังสินค้าครบวงจร และเป็นกลไกในการพัฒนาด้านการขนส่งของภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพและยังเป็นหน่วยงานกลางในการส่งสินค้าจากผู้ผลิตภาคการเกษตร สินค้าชุมชน และสินค้า OTOP ตรงสู่ผู้บริโภคอีกด้วย