นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ระบุ เงินเฟ้อไตรมาสแรกปีหน้ามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ชี้ธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตต่ำมาก มีความเสี่ยงสูง หลายสาขาอาชีพเสี่ยงตกงาน
ผศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เงินเฟ้อไตรมาสแรกปีหน้ามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากการปรับเพิ่มค่าโดยสารรถสาธารณะ ราคาพลังงานและการเลือกตั้ง แต่เศรษฐกิจไทยไม่มีแรงกดดันหรือปัญหาทางด้านเสถียรภาพ จึงยืนยันความเห็นที่ว่า เป็นการเร็วเกินไปที่จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินหรือ กนง.ในรอบนี้
ส่วนปัญหาการเลิกจ้าง ขณะนี้ กฎหมายคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่เพิ่มอัตราชดเชยกรณีถูกเลิกจ้างและเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ผู้ใช้แรงงาน ช่วยบรรเทาปัญหาทางเศรษฐกิจของผู้ถูกเลิกจ้างได้ระดับหนึ่ง ขณะที่กรณีย้ายสถานประกอบการไปที่อื่น หากลูกจ้างไม่ประสงค์ย้ายตาม ก็สามารถบอกเลิกสัญญาจ้างและได้สิทธิชดเชยตามอัตราใหม่ เช่น ลูกจ้างทำงานครบ 20 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินชดเชย 400 บาท
โดย ผศ.ดร.อนุสรณ์ ระบุว่า ธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีอัตราการเติบโตต่ำมาก มีความเสี่ยงสูงและจะมีการเลิกจ้างพนักงานเพิ่มเติมจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคและการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ได้แก่
1.ธุรกิจอุตสาหกรรมทีวี ทีวีดิจิทัล เคเบิลทีวี สื่อสิ่งพิมพ์และสำนักพิมพ์ต่างๆ
2.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายหรือการให้เช่า CD DVD
3.ธุรกิจอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางและปาล์มน้ำมัน
4.สถานศึกษาเอกชน
5.ธุรกิจร้านค้าแบบดั้งเดิม
6.ธุรกิจให้บริการโทรศัพท์พื้นฐานและธุรกิจร้านอินเทอร์เน็ต
7.ธุรกิจหัตถกรรมและเฟอร์นิเจอร์ไม้
8.อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องหนัง
9.เครือข่ายสาขาสถาบันการเงิน
10.เครือข่ายห้างสรรพสินค้า