โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

เปิดยุทธศาสตร์ ตลาดประชารัฐ ผ่านมุมมอง “ดร.ธัชพล กาญจนกูล” ประชาชนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี

เป็นเวลา 45 ปีมาแล้วที่การเคหะแห่งชาติ ได้มุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อผู้มีรายได้น้อย ผ่านโครงการต่างๆ ตามนโยบายของรัฐบาล ด้วยที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยสี่ที่สำคัญอันดับต้นๆ ของมนุษย์ นอกจากนี้ ยังได้ขยายการพัฒนานำไปสู่สร้างความเจริญให้กับชุมชนกับ โครงการ “ตลาดเคหะประชารัฐ” เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตให้คนในชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย

 

ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวถึงความสำเร็จกับโครงการตลาดเคหะประชารัฐว่า ภายหลังจากที่การเคหะแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และทุกภาคส่วน ทำให้วันนี้ตลาดประชารัฐเป็นรูปเป็นร่าง และมีส่วนช่วยให้ประชาชนในพื้นที่มีอาชีพและมีรายได้มาดูแลครอบครัว นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดสวัสดิการต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่เข้าร่วมโครงการให้ได้รับความสะดวกด้วย

“การเคหะแห่งชาติ มีบทบาทในการพัฒนาที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยถึงรายได้ปานกลาง ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยมาอย่างต่อเนื่องกว่า 45 ปี โดยในปีงบประมาณ 2561 ที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติมีผลการดำเนินงานที่ดีจนทำให้มีผลกำไรสุทธิเบื้องต้น 1,713 ล้านบาท มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1,038 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นกำไรจากการดำเนินงานของการเคหะแห่งชาติที่สูงที่สุดในรอบ 20 ปี อันเป็นผลมาจากการดำเนินงานต่างๆ เช่น การควบคุมและลดค่าใช้จ่ายภายในองค์กรได้สูงกว่าเป้าหมายที่กำหนด รายได้จากการบริหารค่าน้ำประปา การส่งมอบอาคารและสาธารณูปโภคได้ตามเป้าหมายและรายได้จากการขายโครงการที่อยู่อาศัย เป็นต้น”

 

ในส่วนของผลการดำเนินงานตลาดเคหะประชารัฐในปี 2561 จำนวน 8 ตลาด ได้แก่

1.ตลาดเคหะประชารัฐชุมชนสุขใจ นนทบุรี วัดกู้ 2 (50 แผง) มีรายได้เพิ่มขึ้น คิดเป็น 5-10 % โดยมีการจัดให้มีการลอกท่อและทำความสะอาดตลาดเป็นประจำทุกเดือน มีรณรงค์การลดการใช้โฟมและถุงพลาสติก พัฒนาให้เป็นตลาดไร้เงินสด โดยชำระค่าสินค้าและบริการด้วย QR code ผ่าน SCB Easy แม่มณีของธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารอื่นๆ และประชาชนสามารถใช้เครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ได้อีกด้วย

2.ตลาดเคหะประชารัฐชุมชนสุขใจ พหลโยธิน กม.44 (150 แผง) ผลจากการดำเนินงาน ทำให้แผงร้านค้ายอดขายเพิ่มขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้นคิดเป็น 5-10 % และพัฒนาไปสู่ตลาดไร้เงินสด ส่งเสริมให้เป็นตลาดสีขาว ปลอดแอลกอฮอร์ สามารถใช้เครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ได้

3.ตลาดเคหะประชารัฐพลาซ่า เยสบางพลี (200 แผง) ผู้ค้ามีรายได้เพิ่มขึ้นคิดเป็น 5-10 % มีการส่งเสริมสินค้าจากโครงการ “ทอฝัน by พม.” รณรงค์การลดใช้โฟมและพลาสติก ประชาสัมพันธ์ถึงพิษภัยการใช้น้ำมันทอดซ้ำ และส่งเสริมกิจกรรมการขายน้ำมันพืชใช้แล้วเพื่อสุขภาพของผู้บริโภค และได้รับการคัดเลือกให้เป็นตลาดสดติดดาวในการส่งเสริมของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ใช้เครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐร่วมกับกระทรวงพาณิชย์

4.ตลาดเคหะประชารัฐชวนเดินเพลินใจบวรร่มเกล้า (250 แผง) มีแผลหมุนเวียนประมาณ 30 แผง และเพิ่มแผงวันพุธกับวันเสาร์ (ตลาดนัดพิเศษ) มีรายได้เพิ่มขึ้นคิดเป็น 5-10 % ประชาสัมพันธ์ถึงพิษภัยการใช้น้ำมันทอดซ้ำ และส่งเสริมกิจกรรมการขายน้ำมันพืชใช้แล้วเพื่อสุขภาพของผู้บริโภค ได้รับรางวัลมาตรฐานอาหารปลอดภัย ระดับเงิน อีกด้วย

สำหรับแผนการเปิดตลาดเคหะประชารัฐในปี 2562 ได้แก่

1.ตลาดเทพประสิทธิ์พัทยา จ.ชลบุรี เปิดแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา

2.ตลาดเกรียงไกรร่มเกล้า กรุงเทพฯ กำหนดเปิดตลาดวันศุกร์ ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562

3.ตลาดเคหะชุมชนนครราชสีมา กำหนดเปิดเดือน มีนาคม 2562

4.ตลาดผ้าห้วยขวาง กรุงเทพฯ กำหนดเปิดเดือน พฤษภาคม 2562  

“โครงการตลาดเคหะประชารัฐ เป็นการยกระดับการพัฒนาตลาดชุมชนของการเคหะแห่งชาติสู่ตลาดเคหะประชารัฐกระจายอยู่ในชุมชนต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาค 93 ตลาด รวม 9,900 แผงร้านค้า ซึ่งขับเคลื่อนร่วมกับภาคีต่างๆ ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ สถาบันการเงิน ผู้อยู่อาศัยในชุมชนของการเคหะแห่งชาติ ชุมชนใกล้เคียงและประชาชนทั่วไป ทั้งยังกระตุ้นเศรษฐกิจจากฐานราก สร้างงานสร้างอาชีพให้ชุมชน โดยมีเป้าหมายพัฒนาศักยภาพตลาดเคหะประชารัฐเพิ่มเติมในปี 2562 จำนวน 4 ตลาด คือ ตลาดเคหะประชารัฐชุมชนสุขใจ (เกรียงไกร-ร่มเกล้า),กรุงเทพฯ ตลาดเคหะประชารัฐชวนเดินเพลินใจเทพประสิทธิ์ (พัทยา),ชลบุรี ตลาดเคหะประชารัฐชวนเดินเพลินใจ (โคราช) ,นครราชสีมา และตลาดเคหะประชารัฐชุมชนสุขใจ (บ้านเอื้ออาทรหัวหิน),ประจวบคีรีขันธ์”

 

ล่าสุดกับ 2 รางวัลเกียรติยศที่ทางผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติได้รับ ได้แก่ รางวัลเกียรติยศ เจตนาดี อวอร์ดส 2561 (JETTANADEE AWARDS 2018) สาขาผู้บริหารรัฐวิสาหกิจดีเด่นแห่งปี จาก ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติราชการกระทรวงยุติธรรม และรางวัลเกียรติคุณบุคคลต้นแบบตัวอย่างแห่งปี 2561 สาขาผู้นำองค์กรดีเด่น จากโครงการเชิดชูเกียรติ “ร้อยดวงใจถวายพ่อของแผ่นดินตามรอยพระยุคลบาท” ครั้งที่ 7 ประจำปี 2561 โดย นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี ในรัชกาลที่ 9 เป็นผู้มอบรางวัล

ทั้ง 2 รางวัลนี้จึงเป็นเครื่องการันตีได้ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจจริงที่ต้องการจะให้ผู้มีรายได้น้อยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองและเป็นหนึ่งในฟันเฟืองเล็กๆ ที่จะทำให้วิถีชีวิตเศรษฐกิจในชุมชนได้มีโอกาสเติบโตก้าวสู่ความเท่าเทียมกับสังคมอื่น จากการเดินหน้าพัฒนาตลาดประชารัฐร่วมกับรัฐบาล ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้ค้นพบกับคำว่า “อยู่ดีกินดี” ได้อย่างแท้จริง