SME D Bank เผยความคืบหน้าโครงการ “ฮัก TAXI” ยอดแสดงเจตจำนงล่าสุดหลังผ่านตรวจสอบ7,400 ราย สรุปผลงานวิจัยให้เสร็จภายในสัปดาห์หน้า เพื่อนำมาออกแบบกระบวนการทำงาน คุณสมบัติ และผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ให้เสร็จภายใน 45 วัน ภายใต้แนวทาง “3 เติม” ได้แก่ เติมทักษะ เติมทุน และเติมคุณภาพชีวิต ช่วยยกระดับพลิกโฉมวงการประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ ลั่นเดินหน้าจัดกิจกรรมให้ความรู้ทันที
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เผยว่า จากเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2561ที่ผ่านมา ธนาคารได้เปิดให้ผู้ประกอบอาชีพขับแท็กซี่ แสดงเจตจำนงเข้าร่วมโครงการ “ฮัก TAXI" เสริมแกร่งแท็กซี่ไทยซึ่งในวันดังกล่าวมียอดผู้แสดงเจตจำนง กว่า 6,000 ราย หลังจากนั้น เปิดให้แสดงเจตจำนงผ่านทางออนไลน์ต่อเนื่อง นับถึงวันที่ 2 มกราคม 2562 มียอดแสดงเจตจำนงเพิ่มเติมอีกกว่า 3,500 ราย รวมแล้ว มียอดผู้แสดงเจตจำนงเข้าร่วมโครงการกว่า 9,500 ราย และเมื่อตรวจสอบความถูกต้อง และตัดผู้แสดงเจตจำนงซ้ำซ้อนออกไป เหลือจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 7,400 ราย ดังนั้น ผู้ประกอบอาชีพขับแท็กซี่ สามารถแสดงเจตจำนงได้อีกจนกว่าจะครบ 10,000 คนตามกำหนดวงเงินของโครงการ 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธนาคารได้นำข้อมูลของผู้แสดงเจตจำนงต้องการร่วมโครงการ“ฮัก TAXI” ทั้งในวันที่ 27 ธ.ค. และผ่านออนไลน์ เพื่อสรุปเป็นงานวิจัยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้น ธนาคารจะนำผลงานวิจัยมาออกแบบเป็นแนวทางการดำเนินโครงการ คุณสมบัติผู้กู้ และออกแบบผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน หรือประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2562 โดยอยู่ภายใต้หลักสำคัญ“3เติม” ได้แก่
1. เติมทักษะ ช่วยเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และยกระดับงานบริการด้วยเทคโนโลยี โดยผู้ประกอบอาชีพขับแท็กซี่ที่แสดงเจตจำนงเข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับทุกคน เช่น อบรมการให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน การอบรมการให้บริการ และอบรมการใช้ภาษาต่างประเทศ เพื่อการสื่อสาร รวมถึง ได้รับการแนะนำและสนับสนุนเข้าถึงกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ
2. เติมทุน รูปแบบสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนถูกกว่าการเช่ารถ และได้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถ ผ่อนชำระได้ตั้งแต่ 4-7 ปี ขึ้นอยู่ความสามารถในการหารายได้ ประเภท ราคายี่ห้อรถยนต์ วินัยการเงินของผู้ที่มีความตั้งใจประกอบอาชีพอย่างมืออาชีพ ผ่านสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy Loan) และกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ซึ่งผู้ประกอบอาชีพขับแท็กซี่ที่จะได้รับเงินทุนนั้น ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขและคุณสมบัติที่ธนาคารกำหนด
3. เติมคุณภาพชีวิต สิทธิ์ประโยชน์ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างความมั่นคงในอาชีพ ลดภาระให้ครอบครัว และเข้าถึงสวัสดิการที่ดี เช่น ได้รับประโยชน์การคุ้มครองจากสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ตามมาตรา 40 เข้าถึงกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เงินสงเคราะห์บุตร ค่าฌาปนกิจสงเคราะห์ รวมถึง ได้รับเงินทุนผ่านสินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy Loan) และกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ซึ่งผู้ประกอบอาชีพขับแท็กซี่ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ เหล่านี้ จะต้องมีวินัยการเงิน ตั้งใจประกอบอาชีพขับแท็กซี่อย่างมืออาชีพตามหลักเกณฑ์ของโครงการ “ฮัก TAXI”
ในระหว่างสรุปข้อมูลวิจัยเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินโครงการและออกแบบผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้สอดคล้องกับความต้องการ โดยมี บสย. เป็นผู้ค้ำประกันสินเชื่อ ธนาคารจะเริ่มจัดกิจกรรมเติมทักษะเพื่อยกระดับการให้บริการในลำดับแรกก่อน โดยไม่ต้องรอถึง 45 วัน รวมถึงจะมีการแจ้งข่าวสารความคืบหน้าให้ผู้แสดงความจำนงทราบอย่างต่อเนื่อง
“ผู้ประกอบอาชีพขับแท็กซี่ที่แสดงเจตจำนงร่วมโครงการ“ฮักTAXI” ส่วนใหญ่สิ่งแรกที่ต้องการ คือ เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อนำไปซื้อรถใหม่ อย่างไรก็ตาม จากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาของ SME D Bank พบว่า หากให้แต่เงิน จะไม่ก่อให้เกิดความยั่งยืน จำเป็นต้องให้ความรู้ควบคู่ไปด้วย ดังนั้น แนวทางการดำเนินโครงการ“ฮักTAXI” สิ่งสำคัญที่สุด มุ่งให้ผู้ประกอบอาชีพที่แสดงเจตจำนงเข้าโครงการทุกรายได้รับการเติมทักษะ ซึ่งจะช่วยให้สามารถประกอบอาชีพขับแท็กซี่ได้อย่างยั่งยืน มีรายได้เพิ่ม ลดรายได้ สร้างความพึงพอใจแก่ผู้โดยสาร นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงยกระดับบริการแท็กซี่ได้ทั้งระบบ” นายมงคล กล่าวเสริม