การตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะนั่นคือความเสี่ยงอย่างหนึ่ง แม้ว่าหลายคนจะบอกว่าเสี่ยงน้อยที่สุดแล้ว แต่ถ้าหากเราเลือกแฟรนไชส์ที่ผิด ขาดความรับผิดชอบ และไม่ตรงกับจริตเรา อย่าลืมว่าก่อนที่เราจะตัดสินใจเลือก มีกิจการเป็นพันให้เราเลือก แต่เมื่อเลือกแล้ว เหลือเพียงหนึ่งที่ต้องฟันฝ่าไป ดังนั้นคำถามก่อนเลือกจึงสำคัญ
1.ต้องมีความพึงพอใจ คำว่าพึงพอใจหมายความว่า เราต้องเข้าใจตัวธุรกิจแฟรนไชส์ที่จะเลือกนี้อย่างถ่องแท้ และเมื่อเลือกมาแล้ว เราต้องสนุกกับมัน เรียนรู้อยู่เสมอ และที่สำคัญที่สุดคือธุรกิจนี้จะต้องเติบโตและสร้างรายได้ให้กับคุณอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่กลุ่มธุรกิจแฟรนไชส์ที่กำลังจะตกความนิยมลง ถ้าหากคุณพบเจอกับแฟรนไชส์เหล่านี้ควรเลี่ยงและปฏิเสธเสีย
2.เป้าหมายสุดท้ายของการทำธุรกิจของเราคืออะไร แต่ละคนมีเป้าหมายสุดท้ายของการทำธุรกิจที่แตกต่างกัน บางคนพึงพอใจที่จะมีร้านเพียงร้านเดียว แต่บางคนพึงพอใจที่จะขยายสาขาไปเรื่อยๆ บางคนต้องการให้ธุรกิจนี้เป็นมรดกตกทอดไปยังลูกหลาน สิ่งเหล่านี้คนต้องวางแผน ตั้งเป้าให้ชัดเจนว่ามันเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด เช่น ในบางครอบครัวลูกเต้าก็ไม่ได้ต้องการมีสืบทอดกิจการของพ่อแม่ หรือในกรณีที่คุณต้องการขยายสาขา คุณมีแหล่งทุนสนับสนุนเพียงพอหรือไม่ แผนการขยายสาขาของคุณจะเป็นอย่างไร ขยายอย่างรวดเร็ว หรือค่อยเป็นค่อยไป ทั้งหมดนี้ต้องคิดให้ถ้วนถี่
3.สิ่งใดที่ฉันจะไม่ทำ หลังจากที่คุณได้กำหนดความพึงพอใจ กำหนดเป้าหมายแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการกำหนดกติกาให้ตนเองว่าอะไรที่เราจะทำ และอะไรที่เราจะไม่ทำ ส่วนนี้สำคัญมาก จะเป็นตัวคัดกรองอย่างดีในการไปถามเพื่อหาข้อมูลจากแฟรนไชส์ซอร์ เพื่อนำมาเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจว่าจะเลือกแฟรนไชส์ซอร์รายใด นอกจากนี้ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งที่คุณต้องคิดพิจารณาให้ดีคือรายละเอียดของงานในร้าน คุณอย่าหวังว่าพนักงานของคุณจะทำให้ทั้งหมด หากพนักงานไม่ทำ คุณพร้อมจะลงมือทำหรือไม่ คำถามนี้คุณต้องเป็นคนตอบ
4.แรงบันดาลใจของคุณคืออะไร ประเด็นนี้หลายคนไม่เข้าใจ หลายคนไม่ให้ความสำคัญ เพราะหลายคนคิดว่าอยากจะทำธุรกิจซื้อแฟรนไชส์ มองวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของธุรกิจว่าดี ก็เป็นอันว่าเลือก แต่ที่จริงแล้ว เราต้องเลือกในธุรกิจที่เป็นแรงบันดาลใจ เพราะจะเป็นพลังผลักดันอย่างต่อเนื่องให้เราสามารถฝันฝ่าให้ธุรกิจของเราได้ประสบความสำเร็จหากเกิดปัญหา ถ้าหากคุณมองธุรกิจว่าเป็นงาน มันจะจบอยู่ที่งาน เพราะงานมีวันที่จะหยุด แต่ถ้าคุณมองธุรกิจเป็นแรงบันดาลใจคุณจะใช้ชีวิตกับงานของคุณอย่างกะตือรือร้นได้ทุกวัน
5.นึกให้ออกว่าชีวิตคุณจะเปลี่ยนไปอย่างไร เมื่อคุณตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ การซื้อแฟรนไชส์ก็เหมือนกับการแต่งงานแล้วมีลูก หน้าที่ของคุณคือต้องูแลฟูมฟัก บริหารจัดการอยู่ตลอดเวลา สิ่งสำคัญที่สุดคุณที่ทุ่มเงิน ทุ่มคน เพื่อให้กิจการของคุณได้เกิด แล้วคุณคิดง่ายๆ ว่าปล่อยให้กิจการของคุณให้กับคนที่จ้างมาดำเนิน หรือขับเคลื่อนไป ถ้าคุณทำเช่นนั้น คุณจะเป็นเจ้าของกิจการที่ฉาบฉวย และจะไม่เห็นปัญหาของกิจการที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และลงมาแก้ไขอย่างทันท่วงทีและเมื่อปัญหาสะสมกันมากเข้า กิจการของคุณก็ไปไม่รอด ก็เท่ากับคุณเทเงินลงท่อไปนั่นเอง