อีกหนึ่งแบรนด์แฟรนไชส์เครื่องดื่มชานมไข่มุกที่ได้รับการตอบรับทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้วยการสร้างความโดดเด่นการคัดเลือกใบชาคุณภาพระดับพรีเมี่ยมของแท้ต้นตำรับไต้หวัน การคิดค้นพัฒนาสูตรน้ำเชื่อมโดยใช้ส่วนผสมให้ความหวานที่มีประโยชน์ต่อร่างกายในการนำไปใช้เป็นพลังงาน ตอบโจทย์กลุ่มคนรักสุขภาพ

แฟรนไชส์ชามิจิ ปัจจุบันมีมากกว่า 500 สาขา ทั้งในไทย และต่างประเทศ ได้แก่ สปป.ลาว และเมียนมา แต่ละสาขามีเมนูที่หลากหลายถึง 30-45 เมนูวัตถุดิบมาจากชาสายพันธุ์ต่างๆ ที่นำเข้าจากจีน และไต้หวัน เช่น ชาตงกวา ชาข้าวหอม ชาหมื่นลี้ ชาสี่ฤดู เป็นต้น

เนื่องจากผู้บริโภคนิยมดื่มชามิจิอย่างต่อเนื่อง ทำให้เจริญทรัพย์ต้องการขยายสาขาให้มากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของคนไทย พร้อมทั้งชูจุดขายที่สำคัญคือ การลงทุนกับชามิจิมีเงื่อนไขที่เปิดกว้าง ผู้ลงทุนจะคิดแผนการตลาดเองก็สามารถทำได้ ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี เป็นธุรกิจสร้างอาชีพที่ผู้ลงทุนแฟรนไชส์อยู่ได้ ชามิจิก็อยู่ได้ “เราขายองค์ความรู้มากกว่าขายแฟรนไชส์” นี่คือความตั้งใจของเจริญทรัพย์

สำหรับผู้ที่สนใจร่วมธุรกิจ ชามิจิมีรูปแบบการลงทุนหลายแบบไม่ว่าจะเป็น

• คีออสก์ขนาดเล็ก ความกว้างหน้าร้าน 1.5 เมตร พร้อมวัตถุดิบและอุปกรณ์พร้อมขาย สำหรับ 30 เมนูราคา 55,000 บาท
• คีออสก์ขนาดใหญ่ ความกว้างหน้าร้าน1.8 เมตร พร้อมวัตถุดิบและอุปกรณ์พร้อมขาย สำหรับ 45 เมนู ราคา 88,000 บาท
• รูปแบบร้าน พื้นที่ขนาด 9-12 ตร.ม. พร้อมจัดตกแต่งร้านให้เหมาะสมกับทำเลของร้าน ได้รับวัตถุดิบและอุปกรณ์พร้อมขาย สำหรับ 45 เมนู ราคา 188,000 บาท

ทั้งนี้ ทุกรูปแบบจะได้รับการอบรมเพื่อชงชาอย่างถูกวิธี โดยจะใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมงเท่านั้น สำหรับผลกำไรที่จะได้รับ โดยเฉลี่ยแล้วเครื่องดื่มของชามิจิมีต้นทุนแก้วละ 12 บาท แยกเป็นต้นทุนวัตถุดิบและแพ็คเกจ 6 บาท ต้นทุนค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า อีก 6 บาท ตั้งราคาขายแก้วละ 30 บาททำให้ชามิจิ 1 แก้ว จะมีกำไร 13 บาท หากขายได้ เฉลี่ยวันละ 100-150 แก้วต่อวัน ก็จะสามารถคืนทุนได้ภายใน 1 เดือน

ผู้ที่สนใจลงทุนสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.chamichi.com