ในโลกการค้าการขายในปัจจุบัน การขายโดยไม่ผ่านช่องทางออนไลน์ถือเป็นเรื่องที่ล้าสมัย ผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างยอดขาย หรือทำกำไรเพิ่ม จะต้องเพิ่มขีดความรู้ความสามารถผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น การก้าวทันกระแสความเป็นไปของโลกจึงเป็นสิ่งสำคัญ
สำหรับในประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการค้าขายออนไลน์มากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน มีผู้ประกอบการหลากหลายธุรกิจที่ชิงชัยกันในเรื่องการเข้าถึงการรับรู้ของผู้บริโภค โดยพอจะแบ่งช่องทางที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เลือกใช้ ดังนี้
1. Facebook
ไทยเป็นประเทศแรกที่มีความสามารถในการทำ Content ที่น่าสนใจเพื่อการขายสินค้าออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดีย ปัจจุบันการนำเสนอสินค้าในแบบภาพนิ่งดูจะไม่น่าสนใจแล้ว ทาง Facebook จึงได้สร้างฟีเจอร์ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการ เริ่มมีการไลฟ์สดขายสินค้าจะเห็นว่าการไลฟ์สดเริ่มมีบทบาทมากขึ้น แม่ค้าออนไลน์จะต้องสร้างเอกลักษณ์ของตนเอง บางคนอาจใส่เทคนิคการขายเพื่อสร้างความแตกต่างและดึงดูดให้คนที่มาเห็นได้คลิ๊กเข้าไปดู จะเห็นว่าผู้ประกอบการหลายคนมีเทคนิคในการตรึงคนดูให้อยู่นาน พร้อมมีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมสร้างความน่าสนใจ ธุรกิจเอสเอ็มอีผู้ประกอบการจะต้องสร้างความโดดเด่นและจุดแข็งให้กับตัวเอง
ต่อมาเริ่มมี ไลฟ์กรุ๊ป เข้ามาผสมผสานด้วยถือว่าใครไม่เริ่มเรียนรู้ก็คงต้องตามคนอื่นเขา เพราะ ไลฟ์กรุ๊ปถือว่าเป็น Market Place ขนาดย่อมอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งคนกลุ่มนี้จะมีความชอบในตัวสินค้าที่มีพื้นฐานคล้ายคลึงกันแล้วมารวมกลุ่มกัน เมื่อรวมจำนวนในกลุ่มได้มากขึ้นก็เริ่มมีการนำสินค้ามาบอกขายกันในกลุ่ม เช่น จะเห็นกันมากในกลุ่ม เสื้อผ้ามือสอง เครื่องประดับมือสอง เป็นต้น คนที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ส่วนใหญ่เข้ามาในไลฟ์กรุ๊ปที่มีสมาชิกในกลุ่มเป็นร้อยๆ คน เป็นที่มาของการเกิดกรุ๊ปผสมไลฟ์ นั่นคือการเริ่มต้นจากโซเชียลมาสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
2. Line
ความแตกต่างระหว่าง Line กับ Facebook คือ สามารถดึงคนที่มีความชอบเหมือนกันเข้ามารวมกันได้ จะเห็นว่าตลาด Line ในปีที่ผ่านมาเติบโตอย่างมาก พร้อมมีการสร้าง Line Square ที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์สามารถสร้างห้องอะไรก็ได้ จุดเด่นของไลน์ คือ กลุ่มเป้าหมายมีความชัดเจนมากกว่า ในปีที่ผ่านมามีการขยับ Line เข้าสู่อีคอมเมิร์ซมากขึ้น และขยับเข้าสู่ Market Place มากขึ้นด้วย จากการจับมือร่วมกันกับเอไอเอส และแรบบิท ซึ่งจะเห็นว่า Line พยายามจะเดินมาบนเส้นทางเช่นเดียวกันกับ V Chat และเริ่มที่จะเติบโตขึ้นมาในระดับโซเชียล ฉะนั้นศึกการทำการตลาดอีคอมเมิร์ซในโลกโซเชียลจะมีมากขึ้น
สำหรับปี 2562 การตลาดบนโลกออนไลน์จะมีความเปลี่ยนแปลงไปมากขึ้น รูปแบบการทำตลาดก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน สิ่งที่น่าจับตามอง คือ จะมีคลื่นลูกใหม่เข้ามาในตลาดมากขึ้นด้วย คนทั่วไปเริ่มจะไม่เชื่อในเนื้อหาโฆษณา หรือคนมักจะเอาสินค้าในโฆษณามาถามเพื่อนฝูงกันอีกที หรือจะติดตามรีวิวสินค้าต่างๆ มากขึ้น และคนจะมองและให้ความสำคัญในเรื่องแบรนด์มากขึ้นด้วย ฉะนั้นเราจะเข้าสู่ยุคบุคคลที่ 3 เข้ามาซื้อสินค้า สิ่งสำคัญคือ จะทำอย่างไรที่จะให้บุคคลที่ 3 พูดถึงสินค้าเรา จึงต้องมีเครื่องมือการตลาดประกอบมากขึ้น
ยุคนี้เราเข้าสู่ยุครูปแบบบริษัท (Impres) คือ ผู้ที่มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ เช่น กลุ่มดารานักแสดง กลุ่มบิวตี้บล็อกเกอร์ (Beauty Blogger) กลุ่มฟู๊ดบล็อกเกอร์ (Food Blocker) เป็นต้น ฉะนั้นก็เริ่มมีการแบ่งกลุ่มเซ็นเซอร์บนโลกออนไลน์ กลุ่มแรกคือ กลุ่มแม็คโครเซ็นเซอร์ (Makro Sensor Group) เป็นกลุ่มที่มีคนตามเป็นล้านๆ คน เช่น กลุ่มดารา ศิลปินต่างๆ ที่มีคนตามเยอะ กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มที่คนตามหลายแสนคน กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มไมโครเซ็นเซอร์ (Micro sensore) มีคนติดตามระดับหลักร้อยถึงหลักหมื่นคน
ฉะนั้นวิธีการจัดการของผู้ค้าออนไลน์ คือ มักจะนำสินค้าไปให้ดาราถือ ให้ดาราทดลองใช้ เกิดเกระแสการรับรู้ทันที แต่จุดที่น่าสนใจคือ ผู้ค้าออนไลน์เริ่มมาจับกลุ่มไมโครเซ็นเซอร์มากขึ้น เพราะเพียงการแชร์ 1 ครั้งอัตราการเข้าถึงมากถึง 42 % จากกลุ่มแม็คโครที่มีการแชร์ 1 ครั้งสามารถเข้าถึงเพียง 22 % เท่านั้น ฉะนั้นเทรนด์การตลาดต่อจากนี้จะเริ่มลงมาจับกลุ่มไมโครเซ็นเซอร์หรือกลุ่มคนทั่วไปมากขึ้น หรือมีความพยายามทำให้คนทั่วไปพูดถึงแบรนด์สินค้ามากขึ้น
อีกตัวที่กำลังมาในปีนี้ คือ Google Shopping จะสังเกตในปีที่ผ่านมาเวลาจะเสิร์ซหาสินค้าอะไรก็ตาม หากสินค้าไหนขึ้นไปอยู่อันดับบนหรืออันดับต้นๆ จะสามารถสร้างยอดขายให้กับเจ้าของธุรกิจได้เยอะมาก เพราะหลายคนที่เสิร์สหาในช่องทางนี้มักจะมีความต้องการตัวสินค้าโดยตรง ดังนั้น เมื่อเจอชื่อสินค้าในอันดับต้นๆ ผู้ประกอบการมักจะขายสินค้าได้ การลงโฆษณาใน Google Shopping จึงมีความสำคัญมากในขณะนี้
สิ่งที่สำคัญอีกข้อ คือ การหาเครื่องมือในการตอบคำถามลูกค้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการค้าขายบนโลกออนไลน์มีการแข่งขันที่สูงมาก ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อได้อย่างรวดเร็ว หากคุณช้าไปเพียงไม่กี่นาทีลูกค้าก็อาจจะลอยไปถึงแม่ค้าออนไลน์รายอื่นได้ ยุคนี้ขอบอกเลยว่า ใครเร็วใครได้
