มีคนหลายคนอยากเปิดร้านขายดอกไม้ แต่ไม่มีประสบการณ์ เลยกลัวๆ กล้าๆ แต่รู้หรือไม่ว่าธุรกิจร้านดอกไม้นั้น เป็นเทรนด์สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่จะส่งความรู้สึกดีๆ ต่อกัน นี่คือสิ่งที่คุณควรรู้ หากต้องการเปิดร้านขายดอกไม้

1.ความรักและชอบดอกไม้

หลายคนคิดว่าการเปิดร้านดอกไม้จำเป็นต้องไปเรียนการจัดดอกไม้ แต่รู้หรือไม่ว่าหลายคนประสบความสำเร็จในการเปิดร้านดอกไม้จากความชอบในการจัดดอกไม้ด้วยตนเอง ค่อยจัด ค่อยเรียนรู้ และคิดแบบสไตล์ของตนเอง เรียนรู้คนอื่นบ้าง ใช้สไตล์ของเราบ้างผสมผสานกันไป แล้วนำไปให้เพื่อนๆ หรือคนที่เรารู้จักวิพากษ์วิจารณ์ จนเกิดเป็นตัวตนของเรา แล้วลองไปโพสต์ขายในอินเทอร์เน็ต แบบคำสั่งซื้อล่วงหน้า

เพื่อดูผลตอบรับ และยังเป็นการเริ่มต้นธุรกิจด้วยต้นทุนที่น้อย ไม่ต้องเปิดร้าน ไม่ต้องสต๊อกสินค้ามากมาย ที่สำคัญไปกว่านั้น ระหว่างที่เราทำขายบนออนไลน์ เราจะได้ตรวจสอบความรู้สึกของเราด้วยว่า การที่เราขลุกอยู่กับดอกไม้ทั้งวันทั้งคืนนั้น เราเบื่อ หรือยังชอบอยู่ เพื่อให้เราสามารถตัดสินใจในขั้นตอนต่อไปได้

2.รู้จักและชอบดอกไม้

เมื่อเราตั้งใจจะลงหลักปักฐานกับอาชีพนี้แล้ว ขั้นตอนที่สำคัญต่อไปคือการรู้จักประเภทของดอกไม้ ต้องรู้ว่าดอกไม้นี้เป็นของประเทศไทย ปลูกในเมืองไทย หรือต้องสั่งเข้าจากต่างประเทศ ซัพพลายเออร์เราคือใคร แหล่งซื้ออยู่ที่ไหน ตลอดจนการเรียนรู้ว่าธรรมชาติของดอกไม้แต่ละชนิดเป็นอย่างไร เขามีอายุนานมากน้อยแค่ไหน การรู้จักอายุของดอกไม้ ช่วยให้เราสามารถบริหารสต๊อกของดอกไม้ว่า เข้ามาวันไหน และเขาจะอยู่ได้นานแค่ไหน สิ่งเหล่านี้เราต้องจดเป็นทะเบียนบัญชีไว้ให้เรียบร้อย เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบสต๊อก ดูแลต้นทุน คำนวณราคา

ทุกคนรู้ว่าแหล่งซื้อขายดอกไม้ขนาดใหญ่อยู่ที่ปากคลองตลาด ดอกไม้นำเข้าจากต่างประเทศมักลงขายในทุกวันพุธ ส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศจีน และฮอลแลนด์ สำหรับดอกไม้ในเมืองไทยที่นิยมใช้ คือ ของโครงการหลวง โดยในช่วงแรกที่เริ่มทำอาจใช้วิธีไปเดินเลือกซื้อเอาเอง แต่เมื่อซื้อขายจนกลายเป็นขาประจำสามารถใช้บริการโทรสั่งซื้อ หรือสั่งออนไลน์ และให้ทางร้านจัดส่งให้ได้ก็ได้ นอกจากนี้ในส่วนของอุปกรณ์สำหรับจัดดอกไม้และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ยังสามารถหาซื้อเพิ่มเติมได้ที่ตลาดนัดจตุจักร

3.ตั้งหลักปักฐานด้วยการเปิดร้าน

เมื่อเราขายออนไลน์ได้ยอดในระดับหนึ่ง ก็สร้างความมั่นใจให้สามารถที่จะเปิดหน้าร้านได้ การเปิดหน้าร้านมีจุดดีอย่างหนึ่งคือ เราสามารถจัดโชว์ดอกไม้ที่จัดเสร็จแล้ว และหากใครพึงพอใจก็สามารถหยิบซื้อไปได้เลย เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเพิ่มลูกค้าขาจรและพัฒนาเป็นลูกค้าขาประจำต่อไป แต่การมีหน้าร้านปัจจัยสำคัญคือการบริหารสต๊อก เพราะหากการบริหารสต๊อกไม่ดีอาจทำให้ร้านเจ๊งได้ การจัดการสต๊อกของเรานั้นขึ้นอยู่กับว่าเรามีต้นทุนเท่าไหร่ มีหน้าร้านขนาดไหน หากต้นทุนน้อยก็ไปซื้อดอกไม้มาจัดถี่หน่อย แต่ถ้ามีทุนก็ซื้อตู้แช่ดอกไม้ที่สามารถโชว์ได้ด้วย ก็จะยืดอายุของดอกไม้ได้ และทำให้ร้านเราดูน่าเชื่อถือ

4.การจัดดอกไม้และคิดราคา

ขั้นตอนนี้เราต้องถามความต้องการตลอดจนวัตถุประสงค์ของลูกค้าก่อนว่า ต้องการดอกไม้ประเภทไหน และนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร เพื่อให้เราสามารถคัดสรรดอกไม้และดีไซน์การจัดดอกไม้ได้ถูกตามความต้องการของลูกค้า แต่อย่างน้อยที่สุด เราก็ต้องมีเกณฑ์ของเราด้วยว่า เรามีเกณฑ์ขั้นพื้นฐาน เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่พิเศษ เป็นต้น ซึ่งแต่ละไซต์ราคาจะต่างกัน

ลักษณะดอกไม้ที่เลือกก็ทำให้ราคาต่างกัน การจัดยากจัดง่าย ต้องใช้เวลามากน้อย ล้วนเป็นต้นทุนราคาที่เราจะประเมินเพื่อแจ้งให้กับลูกค้า นอกจากนี้หากดอกไม้นั้นจัดใส่ในตะกร้าหรือกระถาง วัสดุอื่นก็ต้องคิดต่างหาก เราควรมีบริการการจัดส่งด้วย แต่บริการการจัดส่งถึงที่จะต้องคิดต่างหาก โดยปกติเมื่อคิดต้นทุนแล้วเราจะบวกกำไรเข้าไปประมาณ 40 % แล้วแจ้งราคาแก่ลูกค้า

5.การทำการตลาด

บางคนคิดว่าแค่เปิดร้านขายดอกไม้ ทำไมต้องทำการตลาด แต่รู้หรือไม่ว่าในยุคดิจิทัล การค้าออนไลน์เป็นช่องทางที่ต้นทุนต่ำใครๆ ก็อาศัยที่นี่เป็นหน้าร้านในการทำการตลาด ทำกิจกรรมโปรโมชั่น แม้แต่ร้านที่เปิดมานานแล้วก็เปิดเฟซบุ๊ก เราเองก็ต้องมี และหมั่นจัดดอกไม้อัพขึ้น เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นความแปลกใหม่ของเรา ในช่วงหน้าเทศกาลต่างๆ ก็ต้องจัดแคมเปญสำหรับเรียกลูกค้า สิ่งเหล่านี้เป็นกลเม็ดที่จะทำให้ร้านดอกไม้ของเราไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่อยู่รอดได้

Tag ชี้ช่องรวย ร้านดอกไม้ ร้านขายดอกไม้ จัดดอกไม้