ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้ ในอีก 5 ปีข้างหน้า รถยนต์ไฟฟ้า มีแนวโน้มเติบโตในตลาดสูง หลังค่ายรถรายใหญ่เกือบทุกรายที่มีการผลิตรถยนต์ในประเทศได้ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนประกอบรถยนต์ไฟฟ้าจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเป็นที่เรียบร้อยก่อนครบกำหนดไปเมื่อสิ้นปี 2561 และในปีนี้จะได้เห็นทิศทางการลงทุนที่เพิ่มมากขึ้นในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งหนึ่งในการลงทุนที่สำคัญและจะเกิดขึ้นอย่างชัดเจน คือ การผลิตแบตเตอรี่ โดยเพื่อรองรับความต้องการใช้ของรถยนต์ไฟฟ้าที่จะผลิตขึ้นในไทย
ในระยะเริ่มต้นของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศของไทยนั้น จากแนวโน้มการขอรับการส่งเสริมการลงทุนของค่ายรถยนต์จะเห็นได้ว่า ทิศทางการลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยมุ่งเน้นไปยัง 2 กลุ่ม ได้แก่ รถยนต์ไฮบริด (hybrid electric vehicle : HEV) และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (plug-in hybrid electric vehicle : PHEV) โดยบางส่วนได้เริ่มมีการลงทุนประกอบรถยนต์ไปบ้างแล้วตั้งแต่ปี 2561 ขณะที่การลงทุนผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (battery electric vehicle : BEV) ในไทย ค่ายรถต่างมองว่าอาจต้องใช้ระยะเวลาอีกซักพัก เมื่อโครงข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้ามีความพร้อมมากขึ้น แต่ก็น่าจะไม่นานเกินไปกว่าปี 2564 ตามเงื่อนไขบีโอไอที่กำหนดให้ต้องมีการผลิตรถยนต์ขึ้นจริงในประเทศภายใน 3 ปี หลังจากได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน
ดังนั้นศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าในระยะเริ่มต้นรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดจะเป็นประเภทรถยนต์ที่มีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของรถยนต์ไฮบริดที่น่าจะมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนยอดขายอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2562 นี้ ภาครัฐและเอกชนร่วมกันผลักดันให้เกิดการลงทุนและการขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ผ่านโครงการลงทุนผลิตรถยนต์ “อีโค-ไฮบริด ” และ “ไมลด์ไฮบริด ” ซึ่งหากรถยนต์อีโคคาร์ที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีจนทำให้สามารถตั้งราคาในระดับที่แข่งขันได้น่าจะส่งผลให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยเกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ต่อยอดไปสู่การพัฒนาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แบตเตอรี่ด้วยในภายใน 3 ปี ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่มีโอกาสขยายตัวเร็วขึ้น
ด้วยเหตุนี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงคาดว่า ภาพตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเห็นในระยะ 5 ปีนับจากนี้ของไทย หรือในปี 2566 นั้น รถยนต์ไฟฟ้าจะมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 1 ใน 4 ของยอดขายรถยนต์รวมต่อปีทั้งประเทศ หรือคิดเป็นประมาณ 240,000 คันต่อปี ส่งผลให้จนถึงปี 2561 คาดว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้ารวมกันในประเทศมากกว่า 820,000 คัน