ในแวดวงของการทำธุรกิจ เป็นธรรมดาที่จะต้องพลั้งพลาดเพราะยังขาดความรู้และประสบการณ์เพื่อเอามาประมวลเป็นใบเบิกทางในการเติบโตก้าวไปข้างหน้า ยิ่งในปัจจุบันเมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ทุกอย่างเข้ามาและผ่านไปอย่างรวดเร็ว การก้าวให้ทันตามกระแสจึงเป็นสิ่งสำคัญ แต่การที่จะก้าวผ่านอุปสรรคปัญหาให้ไปถึงฝั่งฝันนั้น การมีที่ปรึกษาที่มีความรู้และประสบการณ์ที่ดี จะช่วยย่นระยะเวลาความสำเร็จให้ธุรกิจของคุณเดินหน้าต่อไปอย่างสดใสได้เหมือนกัน
สำหรับบริษัทที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำการตลาดในยุคดิจิทัลนั้น ปัจจุบันมีอยู่มากมายหลากหลายบริษัทและมีหลายรูปแบบด้วย ขึ้นอยู่กับเจ้าของธุรกิจที่จะเลือกใช้บริการที่ปรึกษาในด้านไหน
คุณคริษฐ์ ไข่มุกข์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กซา ไบร์ท จำกัด ให้บริการเกี่ยวกับการเป็นที่ปรึกษาและวางแผนการตลาดในยุคดิจิทัล โดยเขาได้เล่าถึงความเป็นมา พร้อมทั้งเหตุการณ์ความเปลี่ยนแปลงของการตลาดในแต่ละยุคสมัย
“เมื่อ 18 ปีที่แล้วผมทำงานเป็นพนักงานบริษัททำเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ตอนนั้นตลาดเกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซ และการทำเว็บไซต์เพิ่งเข้ามาในประเทศไทย ยุคนั้นเรียกว่าเป็นยุคแฟชั่น คือ มีแต่ไม่ได้ใช้ ทุกคนอยากมีเว็บไซต์แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเว็บไซต์เท่าใดนัก ลูกค้าที่เข้ามาให้ทำเว็บไซต์ในตอนนั้นมีงบประมาณมาให้เราทำราว 3-5 ล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนที่เยอะมาก แต่หลังจากทำแล้วก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรเลย หลังจากนั้นอีก 4-5 ปี ผู้คนเริ่มเห็นถึงประโยชน์ของการมีเว็บไซต์ และเห็นว่าการมีเว็บไซต์สามารถช่วยในเรื่องการทำธุรกิจได้จริง ตอนนั้น Google เริ่มจะเข้ามา เริ่มมีการทำ SEO และทำโซเชียลมาร์เก็ตติ้งมากขึ้น เลยเห็นเป็นโอกาสว่าคนต้องการที่ปรึกษา ผมจึงแยกตัวออกมาก่อตั้งเป็นบริษัทที่ปรึกษาในการวางแผนด้าน E-Marketing”
“คุณคริษฐ์” บอกถึงสถานการณ์การตลาดในปัจจุบันเกี่ยวกับการขายสินค้าว่า ตอนนี้ยอดขายเฉพาะหน้าร้านอย่างเดียวเติบโตประมาณ 3 % ในขณะที่ยอดขายในโลกออนไลน์เติบโตมากถึงปีละ 30 % ซึ่งเป็นยอดขายที่เติบโตมากกว่ารีเทลหน้าร้านถึง 10 เท่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงหันมาแข่งขันกันในช่องทางนี้มากขึ้นเรื่อยๆ บางคนเปิดเว็บไซต์มา 5 ปีก็เริ่มหันมาศึกษา บางคนเริ่มมา 10 ปีแล้วแต่ศึกษาไม่ถูกทาง หรือไม่มีเวลาที่จะศึกษาเพราะต้องไปบริหารธุรกิจตัวเอง
“บนโลกออนไลน์เปลี่ยนแปลงไปทุกวัน มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามามากพอๆ กับช่องทางอื่นๆ เพิ่มขึ้นมากทุกวันรวมทั้งกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการที่หลากหลายเพิ่มขึ้น การเลือกใช้ช่องทางตลาดช่องทางไหนที่จะเข้าไปถึงกลุ่ม Need Market กลุ่มนี้ เช่น ใครบ้างที่เล่นเฟสบุ๊ค อินสตาร์แกรม ทวิทเตอร์ ซึ่งคนกลุ่มต่างๆ จะใช้สื่อที่ไม่เหมือนกัน ต้องถามตัวเองว่า การที่จะก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์ เมื่อเรามีสินค้าแล้ว โจทย์คือจะขายสินค้านี้อย่างไร เช่น เด็กสมัยนี้เมื่อเรียนจบแล้วไม่ชอบทำงานประจำแต่เลือกที่จะขายของออนไลน์ แต่ไม่รู้จะขายอะไร แนะนำว่า ให้ลองไปสังเกตตัวเองในวันหนึ่งๆ คุณทำอะไรบ้าง กินอะไรบ้าง ใช้อะไรบ้าง แล้วไปหาดูว่าสิ่งที่คุณทำคุณใช้คุณกินยังมีอะไรที่คนยังไม่ได้ขายกันบ้าง หรือหาอะไรไม่เจอในกูเกิลบ้างนั่นแหละคือคำตอบ ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ที่คนมองจะต้องเป็นนวัตกรรม ที่สำคัญขอย้ำว่า ต้องเร็วและจริง (Real) อยากฝากในเรื่องของระบบบริหารจัดการ การจะเติบโตในโลกออนไลน์เราต้องทำหลังบ้านให้พร้อมด้วย”