บริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด หรือ ไอแอม จัดแถลงผลประกอบการในปี 2561 และทิศทาง เป้าหมาย การดำเนินการงาน ปี 2562 และแผนระยะยาว 7 ปี (2562 - 2568) โดยบริษัทสามารถเรียกเก็บหนี้ได้ในปี 2561 ประมาณ 2,087 ล้านบาท ทำกำไรได้ประมาณ 693 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขหลังหักภาษีแล้ว (ตัวเลขประมาณการก่อนการตรวจสอบ)

ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่เรียกเก็บหนี้ได้ส่วนใหญ่กว่า 1,000 ล้านบาท มาจากการบังคับคดี ขายทอดตลาด ที่เหลือเป็นการประนอมหนี้ในชั้นบังคับคดี และมีลูกหนี้รายย่อยอีกจำนวนหนึ่งที่แสดงความจำนงขอปิดบัญชีหลังได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ เนื่องจากบางรายเริ่มมีรายได้มากพอหรือสามารถหาผู้ร่วมทุนใหม่ได้ จึงมีเงินมาซื้อหลักประกันคืน
สำหรับแผนดำเนินงานปี 2562 และแผนระยะยาว 7 ปี ไอแอม มีแผนการดำเนินงาน ดังนี้

1.ตั้งเป้าหมายวางระบบการบริหารจัดการบริษัทฯ ตามหลักธรรมมาภิบาล และเป็นบริษัท บริหารสินทรัพย์ด้วยบุคลากรอย่างมืออาชีพ โดยเน้นเทคโนโลยีด้านดิจิทัลเข้ามาบริหารจัดการองค์กรอย่างเป็นระบบ โดยตั้งเป้าเรียกหนี้คืนมากขึ้นกว่าปีก่อนไม่น้อยกว่า 15% สูงสุดไว้ที่ปีละประมาณ 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ลูกหนี้ รายใหญ่ 87% ที่เหลือ 13% เป็นรายย่อย หากสามารถเจรจารายใหญ่ได้ข้อยุติจะทำให้ยอดเรียกหนี้คืนทำได้มาก ซึ่งมูลค่าหลักประกันถือว่าคุ้มมูลหนี้ ทั้งนี้ในส่วนของกำไรที่เกิดขึ้น จะเก็บสะสมไว้เพื่อเตรียมรอชำระตั๋วสัญญาใช้เงินคืนให้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือไอแบงก์ กำหนดชำระปีแรกในปี 2563 วงเงิน 4,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในส่วนของเป้าหมายดำเนินงานในช่วง 7 ปีหลังจากนี้ (2562 – 2568) คาดว่าจะเรียกหนี้ที่รับโอนมา 4.9 หมื่นล้านบาทให้จบภายในปี 2568 และนำเงินไปทยอยใช้หนี้ตั๋วสัญญาใช้เงินของไอแบงก์ ซึ่งรายรับรวม 7 ปีหลังจากนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณไม่น้อยกว่า 32,762 ล้านบาท

2.ดำเนินการสอดรับตามแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติของรัฐบาล ภายใต้โครงการ Business Turnaround ซึ่งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ลูกหนี้สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ ทั้งลูกหนี้ธุรกิจ SMEs และลูกหนี้รายใหญ่ ซึ่งจะสะท้อนไปยังการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศอีกด้วย

3.ให้ความสำคัญกับการแสดงออกต่อความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR โดยมีกำหนดจัดโครงการ Knowledge Management โดยการเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาทางการเงินให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่งได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการในการจัดอบรม หรือเปิดสอนในหลักสูตรการบริหารสินทรัพย์ โดยได้ทำ MOU ร่วมกัน ในการแลกเปลี่ยน Know How ซึ่งกันและกัน อีกทั้งยังพัฒนานวัตกรรมด้านการบริหารร่วมกันเพื่อสร้างเป็น Outcome ให้กับสาธารณชนอีกด้วย

สำหรับผลงานของไอแอมที่ผ่านมาในการเป็นตัวแทนเรียกเก็บหนี้ในช่วงเริ่มต้นที่บริษัทฯได้เปิดดำเนินการ และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ ไอแบงก์ ได้ให้ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูล หรือแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน และกระทรวงการคลัง รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลกิจการของไอแอม ในการอนุมัติเพิ่มทุนให้กับบริษัทเป็น 500 ล้านบาท เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2561 ที่ผ่านมา

ในส่วนของที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ได้มีมติแต่งตั้งนางสาวสุปรียา พิพัฒน์มโนมัย ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท ซึ่งจะเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทในด้านการบริหารสินทรัพย์ การบริพอร์ทลูกหนี้ มีประสบการณ์ด้านการบริหารสินทรัพย์มากกว่า 20 ปี