โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

DITP รุกโครงการ ต้นกล้า ทู โกล ปี 62 จัดอบรม 4 ระยะคัด 50 แบรนด์ต่อยอดเจรจาคู่ค้า

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) เตรียมเปิดตัวโครงการ สร้าง SMEs ไทยสู่เวทีการค้าสากล (ต้นกล้า ทู โกล) ประจำปี 2562 ตั้งเป้าปั้นผู้ประกอบการท้องถิ่นจากทั่วประเทศ ด้วยแผนกลยุทธ์อบรม 4 ระยะ หวังผลักดันสู่สังเวียนการค้าระหว่างประเทศ ตอบโจทย์นโยบาย Local to Global จากท้องถิ่นระดับฐานรากสู่เวทีการค้าระดับโลก

น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมผู้ประกอบการทุกระดับ ทุกพื้นที่ ให้มีโอกาสได้รับองค์ความรู้ด้านการทำการค้าและการส่งออกอย่างทั่วถึง ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ภายใต้นโยบาย Local to Global เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เตรียมความพร้อมในการทำการค้าในรูปแบบเศรษฐกิจยุคใหม่
สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) จึงได้กำหนดจัดโครงการสร้าง SMEs ไทยสู่เวทีการค้าสากล (ต้นกล้า ทู โกล) ขึ้นในปี 2562 ภายใต้หลักสูตรการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการอันประกอบด้วยเนื้อหาวิชาด้านทฤษฎีเชิงวิเคราะห์ พร้อมการฝึกปฏิบัติอย่างเข้มข้นทุกด้าน โดยผู้เชี่ยวชาญ/ผู้มีประสบการณ์จริงทางด้านการดำเนินธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนการให้คำปรึกษารายบริษัท โดยมุ่งเน้นการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจ SMEs รายใหม่ในระดับภูมิภาค ให้มีความพร้อมทั้งทางด้านบริหารจัดการธุรกิจการค้าและการตลาดระหว่างประเทศด้วย

โครงการดังกล่าวประกอบด้วย 4 ระยะ เริ่มด้วย

ระยะที่ 1 เสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการค้าระหว่างประเทศ เพิ่มเติมความรู้เกี่ยวกับ ความรู้พื้นฐานด้านการส่งออก การวางแผน การตลาด การวิเคราะห์ การสร้างกลยุทธ์ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์/สินค้า

ระยะที่ 2 วางแผนธุรกิจและสร้างแบรนด์ให้ผลิตภัณฑ์ โดยจะเป็นการบรรยายเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างนวัตกรรมให้แก่ผลิตภัณฑ์ การวางแผนและการบริหารแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์และช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ออนไลน์ให้สอดคล้องกับตลาดในประเทศเป้าหมาย รวมถึงวิเคราะห์แผนธุรกิจ วิเคราะห์ข้อมูลการสร้างจุดเด่นของแบรนด์ การสร้างช่องทางการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินงานเพื่อการตลาดต่อไป (โดยผู้ได้รับคัดเลือกในระยะที่ 2 ต้องมีสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล)

ระยะที่ 3 พัฒนาบรรจุภัณฑ์ เพื่อต่อยอดสินค้านวัตกรรมในเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้เกี่ยวกับช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์ กลยุทธ์การสร้างตราสินค้า (Brand) เทคนิคการตั้งราคาสินค้าในแต่ละประเทศรวมถึงแนวทางการออกแบบผลิตภัณฑ์และการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ (Packaging) พร้อมรับฟังประสบการณ์จากนักออกแบบที่มีศักยภาพด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีรูปแบบสอดคล้องกับตลาดสากล

ระยะที่ 4 จับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) ถือเป็นระยะสุดท้ายของหลักสูตรที่จะสามารถให้ผู้ประกอบการได้ลงสนามจริง ด้วยการเจรจาการค้ากับกลุ่มผู้ซื้อ/ผู้ประกอบการตัวแทนการค้า ผู้นำเข้า และผู้ประกอบธุรกิจการค้าระหว่างประเทศทั้งในและต่างประเทศ หากผ่านการอบรมหลักสูตรแล้ว ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมยังจะได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ วุฒิบัตรจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ให้เป็นผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมในโครงการ และยังมีโอกาสได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs Pro-active Program) เพื่อรับเงินทุนสนับสนุนธุรกิจ อีกด้วย

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว จะจัดขึ้นระหว่างช่วงเดือนเมษายน–สิงหาคม 2562 โดยจะเฟ้นหาผู้ประกอบการทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ได้แก่ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคกลาง เพื่อมุ่งเน้นการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจ SMEs รายใหม่ในระดับภูมิภาคให้มีความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ

ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนได้ที่ https://bit.ly/2CrQJuy หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 085 155 5940 หรือ [email protected] และสามารถติดตามโครงการฝึกอบรมและสัมมนาของสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) ได้ที่ nea.ditp.go.th และที่ www.facebook.com/nea.ditp.go.th หรือ เว็บไซต์กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือ โทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169