“พีทีจี เอ็นเนอยี” เดินหน้าเปิดธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย และคอฟฟี่เวิลด์ เพื่อส่งเสริมผู้ที่ต้องการมีธุรกิจกาแฟ แย้มรับผลบวกการขยายสาขาร้านกาแฟให้เร็วขึ้น ดันธุรกิจ non-oil เติบโตอย่างมั่นคง
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย และ คอฟฟี่เวิลด์ เพื่อส่งเสริมคนที่ต้องการมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง รวมทั้งบริษัทยังได้รับผลดีในด้านการขยายสาขาร้านกาแฟให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2562 ของธุรกิจ non-oil โดยบริษัทวางแผนจะรักษายอดขายให้เติบโตได้ 50 – 60% ซึ่งในปัจจุบันบริษัทมีสาขาให้บริการรวมกว่า 504 สาขา ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อ Max Mart, ร้านกาแฟพันธุ์ไทย, ร้านคอฟฟี่เวิลด์, ร้านข้าวแกงครัวบ้านจิตร, ร้านซ่อมบำรุงสำหรับรถบรรทุก, Autobacs และ Max CAMP เป็นต้น
อีกทั้งบริษัทยังวางแผนขยายสถานีบริการใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 2,000 สาขา จากปี 2561 ที่มีสถานีบริการอยู่ที่ 1,883 สาขา โดยจะเน้นการขยายสาขาในทำเลที่สามารถรองรับการให้บริการ non-oil อื่นๆ แก่ลูกค้าอีกด้วย โดยบริษัทยังได้ตั้งงบลงทุนรวมจำนวน 3,500 ล้านบาท แบ่งเป็น ลงทุนในธุรกิจน้ำมันและธุรกิจที่เกี่ยวข้องอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท, ธุรกิจ non-oil อยู่ที่ 500 ล้านบาท และธุรกิจใหม่อยู่ที่ 500 ล้านบาท
ขณะที่ นายพริษฐ์ อนุกูลธนาการ ผู้อำนวยการทั่วไป บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด และ บริษัท จีเอฟเอ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้บริหารแบรนด์ คอฟฟี่เวิลด์ กล่าวอีกว่า การเปิดตัวธุรกิจแฟรนไชส์กาแฟพันธุ์ไทย และ คอฟฟี่เวิลด์ ยังเป็นการสนับสนุนคนรุ่นใหม่ หรือนักศึกษาที่พึ่งจบ ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจร้านกาแฟ และเป็นการสร้างอาชีพให้คนในประเทศเพิ่มมากขึ้น และยังช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มสาขาของกาแฟพันธุ์ไทย และ คอฟฟี่เวิลด์ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น หลังจากในปี 2561 บริษัทมีสาขากาแฟพันธุ์ไทยอยู่ที่ 203 สาขา และมีสาขาคอฟฟี่เวิลด์ในประเทศอยู่ที่ 71 สาขา
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนซื้อแฟรนไชส์กับบริษัท โดยกาแฟพันธุ์ไทยมีมูลค่าการลงทุนแฟรนไชส์อยู่ที่ 2.30 ล้านบาท และคอฟฟี่เวิลด์มีมูลค่าการลงทุนแฟรนไชส์อยู่ที่ 3.30 ล้านบาท และผู้ที่สนใจลงทุนซื้อแฟรนไชส์ยังได้สิทธิพิเศษ โดยบริษัทจะมีการฝึกอบรมการบริหารจัดการร้าน, วิธีการใช้สูตรเครื่องดื่ม และสั่งซื้อวัตถุดิบ,ช่วยเหลือเตรียมการเปิดร้านและสนับสนุนหลังเปิดร้าน, การส่งเสริมการขาย และการตลาด, ระบบเครื่องบันทึกเก็บเงินสด (POS) และระบบไอทีสนับสนุน, สิทธิการใช้แบรนด์ และเครื่องหมายการค้า รวมทั้งบริการต่างๆ พร้อมกันนี้ยังมีทีมที่ปรึกษาธุรกิจแฟรนไชส์ เพื่อช่วยสนับสนุนการวางแผนการเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ให้มีประสิทธิภาพ
“การลงทุนเปิดแฟรนไชส์กับบริษัทในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยสนับสนุนการเพิ่มอาชีพให้คนในประเทศแล้ว พร้อมทั้งยังจะเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่กาแฟอีกด้วย เพราะว่ากาแฟที่บริษัทใช้เป็นกาแฟอาราบิก้าในภาคเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพของประเทศไทย”นายพริษฐ์ กล่าว