โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

ผลสรุปตัวเลขไม้ผลตะวันออก 4 ชนิด สศก. เผย ปีนี้ ผลผลิตรวม 8.8 แสนตัน เพิ่มขึ้น 33%

ผลสรุปตัวเลขไม้ผลตะวันออก จันทบุรี ระยอง และตราด โดยผลสรุปข้อมูลเอกภาพไม้ผล ปี 2562 4 ชนิด สศก. เผย ปีนี้ ผลผลิตรวม 8.8 แสนตัน เพิ่มขึ้น 33%

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลสรุปข้อมูลปริมาณการผลิตไม้ผลเอกภาพ ปี 2562 โดยคณะทำงานสำรวจข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจภาคตะวันออก ได้สรุปตัวเลขเอกภาพผลผลิตไม้ผลภาคตะวันออก ปี 2562 ของไม้ผล 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ในพื้นที่ 3 จังหวัดตะวันออก จันทบุรี ระยอง และตราด โดยผลสรุปข้อมูลเอกภาพไม้ผล ปี 2562 (ข้อมูล ณ 27 มีนาคม 2562) พบว่า

เนื้อที่ยืนต้น ของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด มีจำนวน 692,810 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มีจำนวน 678,203 ไร่ (เพิ่มขึ้น 14,607 ไร่ หรือร้อยละ 2.15) โดยทุเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.20 ส่วน เงาะ ลดลงร้อยละ 2.10 มังคุด ลดลง ร้อยละ 0.28 และ ลองกอง ลดลงร้อยละ 5.08

เนื้อที่ให้ผลของไม้ผลทั้ง 4 ชนิด มีจำนวน 626,339 ไร่ เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มีจำนวน 615,172 ไร่ (เพิ่มขึ้น 11,167 ไร่ หรือ ร้อยละ 1.82) โดยทุเรียน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.31 มังคุด เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.69 ส่วนเงาะ ลดลง ร้อยละ 2.43 และ ลองกอง ลดลง ร้อยละ 3.84

ผลผลิต รวมทั้ง 4 สินค้ามีจำนวน 886,535 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มีจำนวน 667,025 ตัน (เพิ่มขึ้น 219,510 ตัน หรือ ร้อยละ 32.91) โดยผลผลิตออกมากช่วงกลางเดือนเมษายนต่อเนื่องถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่ง มังคุด เพิ่มขึ้นมากที่สุดอยู่ที่ร้อยละ 144.11 เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยต้นมังคุดมีเวลาพักสะสมอาหารนานจึงออกดอกติดผลได้มากในปีนี้ ต่างจากปี 2561 ที่ติดผลน้อยมาก โดยปี 2561 ผลผลิตลดลงจากปี 2560 ถึงร้อยละ 52.12 รองลงมาได้แก่ ลองกอง เพิ่มขึ้นร้อยละ 24.35 ทุเรียน เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.69 และเงาะ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.31

ทั้งนี้ ผลผลิตต่อไร่ ของผลไม้ทั้ง 4 ชนิด เพิ่มขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ประกอบกับในปีที่ผ่านมาไม้ผลบางชนิดไม่ติดผลและผลผลิตน้อยทำให้มีเวลาในการพักต้นสะสมอาหารต้นสมบูรณ์ขึ้นส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะผลผลิตต่อไร่ของมังคุด และลองกอง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากในปีที่ผ่านมาติดดอกออกผลน้อยจึงคาดว่าต้นมังคุดได้พักสะสมอาหารเป็นระยะเวลานาน อีกทั้งในช่วงปลายปี 2561 สภาพอากาศมีความเหมาะสมกระตุ้นให้ไม้ผล ทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ สามารถติดดอกออกผลได้มากเพิ่มยิ่งขึ้น

ด้านนายสุชัย กิตตินันทะศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 จังหวัดชลบุรี (สศท.6) กล่าวเสริมถึงสถานการณ์ในขณะนี้ว่า ทุเรียน ออกดอกแล้วร้อยละ 100 ส่วนใหญ่อยู่ในระยะติดผลขนาดกลาง ผลผลิตที่ติดผลในช่วงแรกเป็นทุเรียนพันธุ์เบาและทุเรียนที่ใช้สารกระตุ้นการออกดอก โดยจะเป็นพันธุ์กระดุมและหมอนทองบางส่วน ทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมเป็นต้นมา

และผลผลิตออกมากช่วงสงกรานต์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม เงาะ ออกดอกแล้วร้อยละ 100 อยู่ในระยะเริ่มผลและผลขนาดเล็ก ผลผลิตชุดแรกจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ในช่วงปลายเดือนมีนาคมในพื้นที่ของจังหวัดตราด และผลผลิตรวมทั้งหมดจะเก็บเกี่ยวได้ถึงต้นเดือนสิงหาคม และจะออกมากช่วงกลางเดือนพฤษภาคม มังคุด ออกดอกแล้วร้อยละ 100 อยู่ในระยะผลเล็กถึงผลขนาดกลาง สามารถเก็บผลผลิตรุ่นแรกได้ในช่วงเดือนปลายมีนาคม ออกชุกช่วงปลายเมษายน (หลังสงกรานต์) ต่อเนื่องถึงต้นพฤษภาคม ส่วนลองกอง ออกดอกแล้วร้อยละ 60 ส่วนใหญ่อยู่ในระยะเริ่มตั้งช่อเขียวถึงระยะช่อดอก ซึ่งลองกองสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี 

อย่างไรก็ตาม หากสภาพดิน ฟ้า อากาศแปรปรวน และปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการดูแลรักษาต้นไม้ อาจส่งผลให้ปริมาณผลผลิตไม้ผลเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ และด้วยสภาพอากาศในช่วงปลายปี 2561 ส่งผลดีต่อการติดดอกออกผลของผลไม้ในภาคตะวันออก โดยเฉพาะทุเรียน มังคุด และเงาะออกดอกได้เร็วขึ้น ทำให้ปี 2562 ผลไม้ในภาคตะวันออกจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็วขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่ง สศท.6 จะได้ติดตามสถานการณ์ไม้ผลกับเกษตรกรในพื้นที่ทั้ง 3 จังหวัดต่อไป ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลไม้ผลภาคตะวันออกเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 6 จังหวัดชลบุรี โทร. 038 352 435 หรืออีเมล [email protected]