กรมบัญชีกลางจับมือพันธมิตร เร่งดำเนินการโหลดแอปพลิเคชั่นให้ร้านค้ารายย่อย 1 แสนราย –ย้ำไม่ยกเลิกบัตรคนจน แม้เปลี่ยนรัฐบาล
น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า หลังจากรัฐมนตรีติดตั้งเครื่อง EDC รองรับการใช้เงินผ่านบัตรสวัสดิการฯของผู้มีรายได้น้อย ได้ติดตั้งไปแล้ว 36,000 เครื่องทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มช่องทางการใช้จ่ายให้เพียงพอสำหรับผู้มีรายได้น้อยซื้อสินค้าผ่านบัตรสวัสดิการประชารัฐ กับร้านค้าทั่วไป ทั้งตลาดนัด ตลาดสด ตลาดประเภทต่างๆ ด้วยการให้โหลแอปพริเคชั่นถุงเงินประชารัฐไปแล้ว 2 หมื่นร้านค้า แต่ยังไม่เพียงพอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจึงกำหนดเป้าหมายให้ขยายเพิ่มเติมอีก 1 แสนราย
ทั้งนี้ เริ่มตั้งแต่ในวันจันทร์ที่ 8 เม.ย.นี้ เตรียมจับมือร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย กระจายการออกพื้นที่รณรงค์ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อแนะนำให้ร้านค้าทั่วไปโหลดแอปฯถึงเงินประชารัฐ รองรับการซื้อสินค้าของผู้มีบัตรสวัสดิการ โดยต้องสมัครกับเจ้าหน้าที่ของกรมบัญชีกลาง พาณิชย์จังหวัด และธนาคารกรุงไทย
ซึ่งได้ออกพื้นที่ร่วมกับ เพื่อคัดเลือกคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการเหมือนกับการตั้งเครื่อง EDC กับร้านค้า เพื่อเพิ่มช่องทางและอำนวยความสะดวกให้มากขึ้น จึงทำให้ประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ สามารถใช้เงินสด และเงินที่ใช้ซื้อสินค้ารายเดือน 200 บาท 300 บาท ได้ทั้งสองรูปแบบ เพื่อให้เข้าถึงการใช้จ่ายของชาวบ้านได้มากขึ้น
สำหรับการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังใช้จ่ายผ่านบัตรได้ตามปกติทุกเดือนในการซื้อสินค้ารายเดือน 200 บาท 300 บาทไม่มีการยุติ สำหรับการช่วยเหลือเพิ่มเติมชั่วคราว จะหมดอายุไปตามโครงการ เช่นการฝึกอบรมอาชีพ หรือจ่ายครั้งเดียวบางโครงการ สำหรับการใช้บัตรชำระค่าโดยสารรถเมล์ขสมก. ยังสามารถใช้กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทั้งแบบบัตรแมงมุมเวอร์ชั่น 2.0
และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ลงทะเบียนกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เวอร์ชั่น 2.5 รวมทั้งบัตร EMV เวอร์ชั่น 4.0 ของผู้ที่ลงทะเบียนในเขต กทม. นนทบุรี อยุธยา ปทุมธานี นครปฐม สมุทรปราการ และสมุทรสาคร สามารถใช้ชำระค่าโดยสารรถเมล์ของ ขสมก. ทั้งรถโดยสารธรรมดา และรถโดยสารปรับอากาศ จำนวน 3,000 คัน ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป