โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

พาณิชย์เปิดแผนดันยอดส่งออกผลไม้สด-แปรรูปทั่วโลก

จากความสำเร็จของการจัดกิจกรรม Sourcing ผลไม้พรีเมี่ยมล่วงหน้า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีผู้ซื้อรายสำคัญและผู้ซื้อผ่านออนไลน์กว่า 55 บริษัท ส่งผลให้มีการเจรจาการค้าทันทีกว่า 3 ล้านเหรียญสหรัฐ 

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยแผนผลักดันสินค้าผลไม้สู่ต่างประเทศ เร่งรองรับผลผลิตที่ออกสู่ตลาดโดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายน - มิถุนายน เตรียมกิจกรรมหลากหลายตลอดปี ทั้งด้านออฟไลน์และออนไลน์ ชูกลยุทธ์อัตลักษณ์สำคัญของผลไม้แต่ละพันธุ์ เจาะตลาดพรีเมี่ยมควบคู่กับการสร้างความตระหนักรู้ของผู้บริโภคเพื่อยกระดับราคาสินค้าและนำเสนอสินค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย หวังยึดตลาดผลไม้โลกอย่างยั่งยืน

นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์สงครามทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา ส่งผลกระทบทั้งทางบวกและลบกับการส่งออกผลไม้ของไทย
คาดว่าปีนี้ผลไม้ไทยจะสามารถส่งออกไปยังตลาดจีนได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นสินค้าทดแทนผลไม้จากสหรัฐอเมริกา แต่ในตลาดอื่นไทยจะต้องแข่งขันกับผลไม้จากจีนและสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้น ดังนั้นการสร้างความตระหนักรู้ถึงจุดเด่นและคุณประโยชน์ของผลไม้แต่ละชนิดแก่ผู้บริโภค การรักษาคุณภาพมาตรฐานของสินค้า การสร้างแบรนด์ จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการแข่งขันอย่างยั่งยืน

ตลอดปี 2562 กรมได้เน้นกิจกรรมใหม่ๆ ควบคู่กับภารกิจหลักของกรม โดยเฉพาะการกระจายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ กรมได้ส่งเสริมการขายผลไม้ผ่านเว็บไซต์ www.thaitrade.com เพื่อเป็นสื่อกลางให้ผู้ขายกับผู้ซื้อทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมุ่งหวังที่จะนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาเป็นเครื่องมือผลักดัน ขยายโอกาส และเพิ่มช่องทางการค้าใหม่ๆ รวมถึงแผนการขยาย Thai Fruit Flagship Store บนเว็บไซต์ TMall ในเครือ

อาลีบาบา ซึ่งปัจจุบันมีผลไม้ไทยได้รับคัดเลือกเข้าไปจำหน่ายบน platform ดังกล่าวแล้ว 9 ชนิดได้แก่ ทุเรียน มังคุด ลำไย มะม่วง มะพร้าว ขนุน ชมพู่ สับปะรด และลองกอง ปีนี้คาดว่ายอดขายผ่านช่องทางนี้จะสูงกว่า 130 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่กิจกรรมหลักของกรม จะเน้นการขายสินค้าผลไม้ร่วมกับผู้นำเข้าห้างสรรพสินค้า

ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหารไทย และคู่ค้าในตลาดเป้าหมาย (In – Store Promotion) เพื่อให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักและนิยมในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น อาทิ การจัดกิจกรรมร่วมกับห้าง Modern Trade ของจีนทั้งเมืองหลักและเมืองรองที่สำคัญ ได้แก่ กวางโจว เซี่ยงไฮ้ คุนหมิง หนานหนิง เซี่ยะเหมิน ชิงต่าว และฉงชิ่ง การจัดกิจกรรมร่วมกับซุปเปอร์มาร์เก็ต Wellcome ของฮ่องกง การจัดกิจกรรมร่วมกับห้าง Jasons Supermarket จำนวน 26 สาขาในไต้หวัน และการจัดงาน Thai Fair ร่วมกับห้าง AEON ทั่วประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนี้ ในตลาดญี่ปุ่นจัดงาน Thai Festival ช่วงเดือนพฤษภาคม 2562 เน้นคูหาประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยร่วมกับซุปเปอร์มาร์เก็ต Beisia ของญี่ปุ่น และเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รายการโทรทัศน์ของ Shop Channel ของญี่ปุ่นได้ออกอากาศจำหน่ายมะม่วงไทย มีจำนวนสั่งซื้อในรายการถึง 8,945 กล่อง กล่องละ 2.8 กิโลกรัม รวมปริมาณการขายถึง 25 ตัน

การผลักดันสินค้าผลไม้สด แปรรูป และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากส่วนเหลือใช้ของผลไม้ ผ่านการจัดงาน
Top Thai Brands และงาน Thailand Week ในภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และจีน ตลอดปี 2562 รวม 13 งาน โดยจัดไปแล้วจำนวน 6 งาน ได้แก่ ประเทศกัมพูชา เมียนมา ฟิลิปปินส์ สปป.ลาว อินเดีย และบังคลาเทศ

ส่วนไตรมาสที่ 2 ของปี กำหนดจัดงานในประเทศเวียดนาม (โฮจิมินห์ซิตี้ และฮานอย) และจีน (คุนหมิง)
ซึ่งในไตรมาสที่ 3 เป็นช่วงฤดูผลไม้ภาคเหนือและภาคใต้ออกสู่ตลาด จะเน้นไปยังประเทศอินโดนีเซีย ศรีลังกา สิงคโปร์ และจีน (หนานหนิง) โดยผู้สนใจสามารถติดต่อเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวกับกรมได้
กลยุทธ์สำคัญในการสร้างภาพลักษณ์หรือแบรนด์สินค้าผลไม้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ดำเนินการชูอัตลักษณ์ผลไม้เกรดพรีเมี่ยมของไทยโดยเฉพาะทุเรียน 4 สายพันธุ์ ได้แก่ ชะนี หมอนทอง ก้านยาว และพวงมณี

จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน ให้ทราบถึงความแตกต่าง ลักษณะเฉพาะ และวิธีการเลือกทุเรียนที่มีคุณภาพ รวมทั้งได้จัดทำข้อมูลลักษณะ Story Telling โดยเชิญ Influencer/Blogger ที่มีชื่อเสียงจากต่างประเทศมาร่วมในการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ และเขียนบทความเกี่ยวกับผลไม้ เช่น ทุเรียน ลำไยและมังคุด เป็นต้น อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตผู้ส่งออกผลไม้ไทยควรรักษาคุณภาพมาตรฐานให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ควบคุมคุณภาพการผลิตตลอด Supply Chain และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สามารถยืดอายุของผลผลิตให้เหมาะสมกับตลาดเพื่อการส่งออก ติดฉลากระบุคุณค่าทางโภชนาการ ระยะเวลาในการรับประทาน และการเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม 

อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกล่าวในตอนท้ายว่า นอกเหนือจากกิจกรรมมากมายในต่างประเทศที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีกิจกรรมใหญ่ที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย คือ งานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX – World of Food Asia 2019 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน 2562 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ซึ่งภายในงานจะมีพื้นที่สำหรับแสดงสินค้าผลไม้ชนิดต่างๆ ทั้งสดและแปรรูป ถึงกว่า 4,500 ตารางเมตรอีกด้วย

อนึ่ง ในปี 2561 ไทยส่งออกผัก ผลไม้สด แช่เย็น แช่งแข็งและแห้ง มูลค่ารวม 2,959.37 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2562 (มกราคม – กุมภาพันธ์) ไทยส่งออกผัก ผลไม้สด แช่เย็น แช่งแข็งและแห้ง มูลค่า 487.38 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปี 2561 ถึงร้อยละ 46.85 ตลาดส่งออก คาดว่าการส่งออกผลไม้ไทยในปีนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 30-40 จากปีที่ผ่านมา และจะทำให้ไทยส่งออกไปทั่วโลกมากกว่า 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรก

ตลาดที่สำคัญสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ เวียดนาม จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ ตลาดส่งออกหลักของทุเรียน ได้แก่ จีน เวียดนาม ฮ่องกง ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา ตลาดหลักของมังคุด ได้แก่ จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และฮ่องกง และตลาดหลักของลำไย ได้แก่ อินโดนีเซีย จีน และเวียดนาม 

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือ โทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169