กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดเสวนาในหัวข้อ “เคล็ด (ไม่) ลับเจาะตลาดสร้างโอกาสสู่ผู้นำการค้าโลก” เมื่อเดือนที่ผ่านมา เพื่อเป็นการส่งเสริมความรู้แก่ผู้ประกอบการส่งออกของไทย ที่จะนำไปสู่การเตรียมความพร้อมต่อการสมัครเข้าร่วมโครงการพิจารณาคัดเลือกและตัดสินรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น 2562 หรือรางวัล PM Award 2019
ซึ่งการเสวนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรทั้ง 4 ท่าน ร่วมแบ่งปันองค์ความรู้ โดยทุกท่านล้วนเป็นผู้ประกอบการส่งออกที่ประสบความสำเร็จในตลาดต่างประเทศ และได้รับรางวัล PM Export Award 2018 มาแล้วทั้งสิ้น
การเสวนาดังกล่าวเริ่มจาก นางสุวรรณา เอี่ยมพิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบอร์แทรมเคมิคอล (1982) จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ยาหม่องน้ำเซียงเพียวอิ๊ว ยาหม่องน้ำสูตรสมุนไพรจีนต้นตำรับ เจ้าของรางวัล Best Thai Brand ชี้แนะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ๆ ว่า “หลักธรรมาภิบาลเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจ
ซึ่งหมายถึงการที่ธุรกิจนั้นๆ ต้องให้ความสำคัญต่อทุกองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องของการดำเนินธุรกิจ ไม่เพียงเฉพาะการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ปลอดภัยต่อผู้บริโภคเท่านั้น หากแต่ธุรกิจยังต้องมีแผนการทำ Corporate Social Responsibility หรือ CSR นั่นคือการแบ่งปัน สร้างสรรค์ประโยชน์เพื่อสังคมทุกภาคส่วน ตั้งแต่ภายในกระบวนการดำเนินธุรกิจซึ่งเกี่ยวข้องกับสวัสดิภาพของพนักงาน ไปจนถึงการปฏิบัติต่อสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม ทั้งหมดนี้จะช่วยสะท้อนตัวตนของแบรนด์ธุรกิจที่เป็นหน่วยหนึ่งของสังคม ไม่ใช่เพียงองค์กรที่แสวงผลกำไร”
ขณะที่ นายปรีชา สันลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิ๊กไอเดีย คอร์ปอเรท (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Voodoo ซึ่งได้รับรางวัล Best Halal จากปีที่ผ่านมาได้กล่าวถึงแนวทางการสมัครเข้าร่วมโครงการสำหรับสินค้าที่ต้องการการการันตีความเป็นที่สุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ฮาลาลว่า “ธุรกิจทั่วไปสามารถยื่นแสดงความจำนงขอรับรองมาตรฐานสินค้าฮาลาลได้
แม้ไม่ใช่ธุรกิจที่ก่อตั้งโดยเจ้าของที่เป็นมุสลิม แต่ที่สำคัญที่สุดสำหรับสินค้าที่ผ่านการรับรองมาตรฐานฮาลาลแล้ว เมื่อต้องการสมัครเข้าร่วมโครงการ PM Export Award ในประเภทรางวัล Best Halal ก็คือการเตรียมข้อมูล เอกสาร เพื่อชี้แจงรายละเอียดให้ชัดเจนถึงกระบวนการผลิตที่สะอาดตามมาตรฐาน ซึ่งจะสื่อสารความเป็นสินค้าฮาลาลให้คณะกรรมการเห็นถึงคุณสมบัติสอดคล้องกับหลักเกณฑ์อย่างชัดเจน”
ด้านเจ้าของรางวัล Best OTOP นายฉัตรชัย ชลิตตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคียงมูล พลังงานยั่งยืน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ สำหรับดูแลบ้าน สัตว์เลี้ยงต้นไม้และผิวพรรณ กล่าวถึงการสร้างโอกาสการแข่งขันกับสินค้าในตลาดโลกให้กับธุรกิจขนาดย่อมในระดับท้องถิ่นว่า แม้จะเป็นธุรกิจขนาดเล็กก็ต้องมีมาตรฐานในทุกองค์ประกอบ และทุกกระบวนการที่สามารถเทียบเคียงกับธุรกิจในระดับสากลได้
ตั้งแต่ความใส่ใจในกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับคนในพื้นที่ เช่น การรับซื้อวัตถุดิบในท้องที่เพื่อนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ กล่าวคือเป็นการสร้างรากฐานทางเศรษฐกิจแก่ท้องถิ่น ตลอดจนการผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นมาเชื่อมโยงกับรูปแบบของผลิตภัณฑ์อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมมูลค่าแก่ผลิตภัณฑ์และเพิ่มโอกาสทางการตลาดได้
และ นายชวพล เทพผดุงพร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์กะทิชาวเกาะ ซึ่งคว้ารางวัล Best Exporter จากปีที่ผ่านมา กล่าวว่า “ก่อนยื่นสมัครเข้าร่วมโครงการ สิ่งสำคัญคือการเตรียมความพร้อม รวมถึงการศึกษาหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการใช้ในการตัดสินให้ถี่ถ้วนก่อนการยื่นสมัคร
ตลอดจนการเตรียมเอกสารโดยต้องรวบรวมจากทุกฝ่ายภายในบริษัทให้ครบถ้วนทุกหัวข้อ จนกระทั่งเมื่อเข้าสู่กระบวนการนำเสนอ ต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนภายใต้ความท้าทายของเวลา และนำเสนอให้สอดคล้องกับประเภทรางวัลที่ต้องการ เนื่องจากรางวัลแต่ละประเภท คณะกรรมการก็จะมีหลักเกณฑ์การพิจารณาที่ต่างกัน เช่น การสมัครในหมวดรางวัล Best Exporter ต้องมุ่งเน้นเสนอเรื่องยอดจำหน่ายจากการส่งออก กลยุทธ์การตลาดในต่างประเทศ รวมถึงการสร้างแบรนด์”
วิทยากรทั้ง 4 ท่านได้ให้ความเห็นที่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันว่า หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจส่งออกให้ประสบความสำเร็จได้นั้น คือการวางกลยุทธ์การตลาดและการสื่อสารที่ต้องอาศัยการศึกษาและการทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ต่อบริบททางวัฒนธรรมของแต่ละประเทศที่ส่งสินค้าเข้าไปตีตลาด เนื่องด้วยผู้บริโภคแต่ละประเทศนั้นมีพฤติกรรม ทัศนคติ ความคิด ที่แตกต่างกัน
กล่าวโดยสรุปคือ ต้องมีความเข้าใจต่อ Consumer Insight ของผู้บริโภคในแต่ละท้องถิ่น และการได้มาซึ่งรางวัล PM Export Award นั้นจะสามารถเป็นเครื่องหมายที่ช่วยการันตีคุณภาพในแต่ละด้าน และเป็นที่ยอมรับในตลาดต่างประเทศได้ง่ายกว่าธุรกิจสินค้าหรือบริการทั่วไป
สำหรับโครงการรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น ประจำปี 2562 หรือ Prime Minister’s Export Award (PM Export Award) ได้ริเริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 ในปัจจุบันมีการแบ่งประเภทออกเป็น 7 ประเภทรางวัล ได้แก่
- รางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกยอดเยี่ยม (Best Exporter)
- รางวัลสินค้านวัตกรรมยอดเยี่ยม (Best Innovation)
- รางวัลแบรนด์ไทยยอดเยี่ยม (Best Thai Brand)
- รางวัลสินค้าไทยที่มีการออกแบบยอดเยี่ยม (Best Design)
- รางวัลสินค้าธุรกิจบริการยอดเยี่ยม (Best Service Enterprise Award)
- รางวัลสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม (Best OTOP)
- รางวัลสินค้าฮาลาลยอดเยี่ยม (Best Halal)
ซึ่งบริษัทที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าว สามารถยื่นสมัครได้มากกว่า 1 ประเภทรางวัล และสามารถรับรางวัลได้มากกว่า 1 ประเภทรางวัลเช่นเดียวกัน หากคณะกรรมการพิจารณาแล้วว่ามีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ของประเภทรางวัลที่ยื่นสมัครทุกประการ
โดยเปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2562 ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดการรับสมัครได้ที่ สำนักส่งเสริมนวัตกรรมและสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โทร 02-507 -8280 , 098-836-4539 064-943-7462 Line Official ID: @pmexportaward อีเมล์ : [email protected] เว็บไซต์ www.pm-award.com