ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งสำหรับผู้ที่เป็นของกิจการร้านอาหาร คือ การมีลูกจ้างฝีมือดี มีความสามารถมาช่วยทำงาน เพราะหากมีลูกจ้างที่ไม่มีฝีมือ หรือไม่มีใจรักในงานบริการ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในภายหลังจะส่งผลแบบไม่ได้คาดหมาย ดังนั้น เมื่อเจอลูกจ้างดังที่หวังแล้ว ก็คงไม่อยากปล่อยให้ลูกจ้างเหล่าลอยหลุดมือไป ชี้ช่องรวย มีเทคนิคเล็กๆ ดีๆ มาฝากกันค่ะ

1.ค่าแรง หรือ ค่าจ้าง ต้องเหมาะสมกับบทบาทและหน้าที่

ในการทำงานทุกประเภท สิ่งที่ทุกคนต้องการก็คือรายได้ หรือ ค่าแรง ค่าจ้าง เพราะทุกคนต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน คงไม่มีลูกจ้างคนไหนที่จะเต็มใจทำงานให้โดยไม่รับค่าแรงเลย ซึ่งเราในฐานะเจ้าของร้าน หรือผู้ว่าจ้างจึงควรคำนวณค่าจ้างให้เหมาะสมกับทำเล เช่น หากร้านอาหารอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีค่าครองชีพสูง การจ่ายค่าแรงขั้นต่ำอาจจะไม่เพียงพอกับการกินอยู่ หากให้ค่าแรงที่ไม่เหมาะสมกับงานที่ทำ ก็ให้ทำใจไว้ก่อนเลยว่า หากมีร้านไหนยินดีจ่ายค่าแรงมากกว่าก็มีสิทธิที่ลูกจ้างฝีมือดีคนนั้นจะเปลี่ยนที่ทำงานไป ฉะนั้น เรื่องนี้ต้องคิดให้หนักค่ะ

2.ทำงานแบบครอบครัว

เมื่อลูกจ้างส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นยุคใหม่ทั้ง Gen Y และมิลเลนเนียล การทำงานเป็นทีมที่มีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจน จะช่วยเพิ่มความเป็นเจ้าของหน้างาน (Ownership) ซึ่งความเป็นเจ้าของนี้เป็นต้นกำเนิดของความภูมิใจในงาน และเป็นพลังผลักดันให้พัฒนาตนเองต่อไป อีกหนึ่งสิ่งสำคัญของความเป็นทีมคือ การสร้างความสบายใจและ ความเป็นกันเอง เปรียบเสมือนทำงานกับพี่ที่เคารพ ดูแลทั้งจิตใจและหน้างาน คุณเองก็จะรู้จักลูกน้องมากขึ้น อาจจับสัญญาณไม่ดี และแก้ไขได้ทันการณ์ก่อนเกิดปัญหาลาออก
เมื่อเกิดความผิดพลาดหรือปัญหา ก็ได้เวลากัปตันทีมอย่างคุณเปลี่ยนพลังลบเป็นความท้าทาย เช่น พนักงานมาสาย คุณสามารถให้ตัวเลือกในการแก้ไข เช่น เปลี่ยนกะ หรือปรับเวลาเข้างาน หรือหากพนักงานไม่มาทำงานโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ก็ควรตักเตือนตรงๆ และวางกฎให้ปฎิบัติตาม ขอแค่ให้นึกเสมอว่า ทุกปัญหามีทางแก้ที่ละมุนละม่อมเสมอ

3. สวัสดิการต้องดี

สวัสดิการเปรียบเหมือนความใส่ใจในรายละเอียดในความเป็นอยู่ของลูกน้อง สวัสดิการที่ดีจึงเป็นการซื้อหัวใจของพนักงานอย่างแนบเนียน ลองเลือกจัดค่าทิปที่แบ่งชัดเจน อาหารกลางวันที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย ชุดยูนิฟอร์ม รองเท้า และค่ารถกะดึก ตัวช่วยด้านสวัสดิการเหล่านี้จะช่วยพนักงานอิ่มใจ (และอิ่มท้องสำหรับอาหารกลางวัน) และอยู่ต่อไปนานๆ

นายจ้างอาจลองใช้สวัสดิการพิเศษสร้างแรงจูงใจได้เช่นกัน อย่างรางวัลตอบแทนให้กับความตั้งใจในการปฏิบัติงานที่ให้เป็นครั้งคราว เมื่อลูกน้องทำงานมีประสิทธิภาพ อาจเลือกให้เป็นวันหยุดพิเศษนอกกะ เพราะการให้เวลาคือของขวัญที่มีค่าที่สุด และแน่นอนว่าคงไม่มีใครไม่ชอบวันหยุดสุดสบาย

4.Training Helps เพิ่มทักษะช่วยได้

เพราะ "สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นก็ไม่เท่าลงมือทำ" ประสบการณ์ของพนักงานในร้านกลายเป็นความเคยชิน จึงถึงเวลาที่จะเปิดโลกใบใหม่ ให้ลูกจ้างได้ค้นพบประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิม การพัฒนาพนักงานไม่จำเป็นต้องทำ บ่อยครั้ง แต่เลือกช่วงเวลาและวิ ธีการอบรมให้เหมาะสมกับพนักงานและงบประมาณ
วิธีง่ายสุดอาจเลือกคอร์สอบรมทั้งแบบปกติและออนไลน์ เช่น คอร์สที่เกี่ยวกับหัวใจบริการ หรือการจัดการร้านอาหาร ลองติดตามข่าวสารโครงการดีๆ จากสื่อต่างๆ อาทิ facebook page มือโปรความอร่อย หรือ หากเป็นลูกค้าของ Unilever Food Solutions ก็สามารถสะสมยอดซื้อเพื่อแลกเรียนคอร์สฟรีได้เช่นกัน

หากมีเวลาสักหน่อยอาจเลือกชมภาพยนตร์ที่แทรกเนื้อหาเกี่ยวกับการบริการ หรือพาลูกน้องไปสัมผัสประสบการณ์ที่ร้านอื่นๆ บรรยากาศ รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสที่ลูกน้องได้รับจะติดตาและตรึงหัวใจไปอีกนาน เกิดเป็นแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการพัฒนาการบริการให้ดีขึ้น เพราะประสบการณ์ดีๆ จากพนักงานที่ส่งมอบต่อลูกค้านั้นมีค่าแก่ธุรกิจของคุณ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Facebook Page : มือโปรความอร่อย