โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

6 เคล็ดลับช่องทางโปรโมทร้านอาหาร อยากเป็นเจ้าของกิจการต้องรู้

สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะเปิดร้านอาหารจะขนาดเล็ก-กลางหรือขนาดใหญ่ ในยุคกระแสโลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทและอิทธิพลในชีวิตประจำวันของผู้คน นอกจากการบริการ ความสะอาดของร้านและวัตถุดิบปรุงอาหาร และองค์ประกอบอื่นๆ แล้ว การทำโปรโมทเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้คนก็มีความสำคัญ ดังนั้น การใช้ประโยชน์จากช่องทางออนไลน์ต่างๆ ซึ่ง ชี้ช่องรวย ได้หยิบยกมาแนะนำ 6 ช่องทาง คาดว่าจะช่วยสร้างยอดกับรับรู้นำมาสู่ยอดขาย มีรายได้เข้าร้านได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง 6 ช่องทางโปรโมทร้านอาหารออนไลน์มีดังนี้ค่ะ

1.Facebook

Facebook เป็นช่องทางออนไลน์อันดับต้นๆ ที่มีคนเล่นมากที่สุดในประเทศไทยถึง 45 ล้านบัญชี ซึ่งประโยชน์ของการโปรโมทร้านผ่านช่องทางนี้ก็คือ ร้านอาหารของคุณจะมีตัวตนอยู่บน Social Media และยังสามารถใช้ช่องทางนี้สร้างแบรนด์และความน่าเชื่อถือร้านได้เป็นอย่างดี โดยอาจจะเริ่มต้นจากการถ่ายภาพบรรยากาศร้านและโพสต์ลง Facebook Page ให้ลูกค้าเห็นว่าร้านคุณสวยและมีความแตกต่างอย่างไร มีจุดเด่นด้านไหน เช่น ร้านคุณมีจุดถ่ายรูปเซลฟี่ มีมุมถ่ายรูป หรือบรรยากาศความเป็นธรรมชาติรอบๆ รูปอาหารที่เป็นเมนูเด่นของร้าน หรือการทำคลิปวิดีโอรีวิวร้านของคุณ หรืออาจจะพ่วงกิจกรรมการจัดโปรโมชั่นที่น่าสนใจเพื่อเรียกยอดการติดตามอย่างนี้เป็นต้น แต่สิ่งสำคัญ คือ ต้องมีความสม่ำเสมอในการทำเนื้อหา (Content) เพื่อให้เพจยังคงสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดี

2.Line@

ปัจจุบัน มีจำนวนผู้ใช้ไลน์ (Line) ในประเทศทะลุ 44 ล้านคน ซึ่งไลน์ถือเป็นแอปพลิเคชั่นสำหรับการพูดคุยแชร์ประสบการณ์ที่ได้รับความนิยมสูงในทุกเพศทุกวัย และเพื่อไม่ให้เสียโอกาสตรงนี้ไป คุณควรมี Line@ ของร้านอาหารคุณไว้ ไม่อย่างนั้น คุณจะเสียพื้นที่ตรงนี้ไปฟรี ๆ ให้คู่แข่งหรือร้านอาหารอื่น ๆ ที่เขาโปรโมทร้านบน Line@ นั่นเอง

ตรงนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า แล้วใช้ Line เฉย ๆ ไม่ได้หรือ ? คำตอบคือ “ได้” เพียงแต่ Line@ มีฟังก์ชั่นการใช้งานหลายอย่างที่เหมาะกับการทำธุรกิจมากกว่า Line ปกตินั่นเอง เช่น Line@ สามารถมีผู้ติดตามได้ถึง 300,000 คน ในขณะที่ Line สามารถมีเพื่อนได้เพียง 5,000 คน Line@ สามารถเพิ่ม Admin ได้สูงสุดถึง 100 คน และยังสามารถ broadcastหรือส่งข้อความหาผู้ติดตามได้ทั้งหมดในเวลาเดียวกันอีกด้วย ในขณะที่ Line ทำไม่ได้

นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ Line@ เป็นช่องทางประกาศโปรโมชั่น แล้วใช้ฟังก์ชั่น E-Coupon เพื่อแจกเป็นบัตรส่วนลด หรือแลกซื้อต่าง ๆ และใช้ Reward Card ที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ บัตรสมาชิกสะสมแต้ม เพื่อรักษาฐานลูกค้า เปลี่ยนจากลูกค้าขาจรเป็นขาประจำได้อีกด้วย

เรียกได้ว่า ถ้า Facebook ทำหน้าที่เป็นหน้าด่านในการโปรโมทร้านอาหารของคุณ Line@ จะทำหน้าที่เป็นกองหนุนนั่นเอง ใครยังไม่ได้ลอง ต้องลอง

3. Google My Business

ปัจจุบันมีผู้ประกอบการหันมานิยมใช้ประโยชน์จาก Google My Business จำนวนมากขึ้น และคุณจะเสียโอกาสมหาศาล หากลูกค้าขาจร search หาร้านอาหารบน Google แต่ไม่มีร้านคุณอยู่ นั่นเพราะลูกค้าก็จะไปกินร้านอื่นที่เขาหาเจอนั่นเอง
ต้องบอกก่อนว่าบริการ Google นั้นแทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวันของคนยุค 4G นี้อย่างแยกไม่ออก ดังนั้น คุณต้องห้ามพลาดที่จะโปรโมทร้านของคุณ
บน Google My Business โดยเด็ดขาด เพราะมันจะช่วยเพิ่มช่องทางให้ลูกค้ามีโอกาสได้มาเจอร้านคุณได้ง่ายขึ้o เช่น ไปโผล่อยู่บนแผนที่บน Google Map หรือไปขึ้นบนอันดับการค้นหาบน Google Search นั่นเอง

คุณยังสามารถใส่เบอร์โทรร้าน เวลาเปิดปิดของร้าน รวมถึงใส่รูปอาหาร บรรยากาศร้านลงไปได้ด้วย อีกฟังก์ชั่นหนึ่งที่ดีมากคือ ลูกค้าสามารถมารีวิวความประทับใจ และให้คะแนนได้ ช่วยให้ดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ได้ไม่ยาก นอกจากนี้ Google My Business ยังสามารถโพสต์ข่าวสาร กิจกรรมของร้านอาหารเราได้ด้วย จึงค่อนข้างครบเครื่อง

ถ้าคุณใช้ Facebook กับ Line@ เพื่อรุกหาลูกค้าแล้ว การมีร้านอาหารของคุณบน Google My Business จึงถือได้ว่าเป็นการตั้งรับได้อย่างดี

4. Lineman x Wongnai

ร้านอาหารในปัจจุบันนิยมหันมาใช้บริการส่งอาหารให้กับลูกค้า เพราะนอกจากจะเปิดร้านแล้ว การบริการส่งอาหารแบบDelivery ก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับคุณ ดังนั้นการใช้บริการ Lineman , Wongnai และอื่นๆ นอกจากจะช่วยย่นระยะเวลาและค่าเดินทางของลูกค้าแล้ว ยังสามารถลดต้นทุนของร้านด้วยด้วย

ปัจจุบัน Wongnai x Lineman มีฐานข้อมูลมากกว่า 1 หมื่นร้านใน กทม. และมีผู้สั่งซื้ออาหารผ่านแอปฯ ถึง 8,500,000 คนต่อเดือน โดยลูกค้าสามารถ search หาร้านอาหารจากระยะทางในละแวกใกล้เคียงได้ หรือดูจากความนิยม รีวิวต่าง ๆ ของ Wongnai ได้ และถ้าหากลูกค้าสั่งซื้ออาหาร บริการของ Lineman ก็จะหาผู้ส่งที่อยู่ใกล้ ๆ ส่งอาหารถึงมือเราได้เลยโดยไม่ต้องเดินทางฝ่ารถติดไปกิน ทั้งนี้ Wongnai และ Lineman ก็จะมีข้อมูลให้กรอก ทั้งเมนูต่าง ๆ ที่ต้องการโปรโมท ราคาแต่ละเมนู สถานที่ตั้งของร้าน เบอร์โทร เวลาเปิดปิดรับออเดอร์ พร้อมให้ใส่รูปอาหาร เรียกได้ว่าครบตามที่ลูกค้าคนหนึ่งต้องการเลย

5. Instagram

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแอปพลิเคชั่นหนึ่งที่คนนิยมเข้าไปเพื่ออัพรูป และเน้นดูรูป ก็คือ Instagram ดังนั้นถ้าคุณอยากโชว์รูปอาหารสวย ๆ โชว์คลิปสั้น ๆ ที่แสดงความน่ากินของอาหารนั้น Instagram ควรจะเป็นหนึ่งในช่องทางที่ใช้โปรโมทสื่อเหล่านั้น

การจัดโปรโมชั่นหรือจัดกิจกรรมก็เป็นสิ่งที่ทำได้ดีเช่นกัน เช่น เฉพาะผู้ที่แท็กชื่อร้านเราบน Instagram จึงจะได้โปรโมชั่นส่วนลดค่าอาหารเรียกได้ว่าทั้งช่วยเพิ่มยอดการติดตาม และเพิ่มการรับรู้ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้คุณยังสามารถ Repost รูปอาหารจากลูกค้า เพื่อช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและดึงดูดลูกค้าได้อีกด้วย แต่สิ่งสำคัญที่ควรย้ำ คือภาพต้องสวย และน่าดึงดูดพอ เพราะอย่าลืมว่า Instagram เน้นรูปภาพ รูปที่ดึงดูดเท่านั้นจึงจะน่าสนใจ

6. Youtube

โจทย์สำคัญโจทย์หนึ่งของผู้ประกอบการร้านอาหารคือ ทำอย่างไรให้คนรู้สึกอยากกินอาหารของเรา ก่อนที่จะเจอหน้าตาอาหารจริง ๆ หรือพูดง่าย ๆ ว่ายั่วน้ำลายจนต้องอยากมาลองชิม วิธีหนึ่งที่ได้ผลคือ การถ่ายทอดด้วยสื่อวิดิโอ เพราะเป็นสื่อที่เล่าเรื่องได้ดีที่สุด เห็นทั้งภาพ ได้ยินทั้งเสียง และการเคลื่อนไหว กระตุ้นประสาทสัมผัสได้ดีที่สุด เมื่อเทียบกับข้อความและภาพนิ่ง และช่องทางการเผยแพร่วิดิโอ ที่ดีที่สุด จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Youtube นั่นเอง

ดังนั้น การที่สามารถให้คนมาแสดงความเห็น กดไลค์ และที่สำคัญ Youtube นั้นมีเจ้าของคือ Google วิดิโอที่อัพขึ้น Youtube จึงได้อานิสงส์ในแง่ของการค้นหาผ่าน Google Search ด้วย

แต่สิ่งที่ทำให้ Youtube เป็นช่องทางที่ดีที่สุดสำหรับวิดีโอ จริง ๆ ก็เพราะว่าคนที่เข้ามาเล่น Youtube นั้น มีความตั้งใจจะเข้ามาดูวิดีโออยู่แล้ว ดังนั้นแม้แต่วิดีโอที่มีความยาวกว่าที่อื่น ๆ ถ้าเนื้อหาน่าสนใจ ก็มีโอกาสได้รับความนิยมสูงได้ไม่ยากคุณอาจเริ่มต้นจากการอัพวิดีโอง่าย ๆ อย่างเช่น คีบอาหารขึ้นมาแล้วเห็นเป็นควัน ดูน่ากิน ถ่ายความรู้สึกของลูกค้าหลังกิน เพื่อเป็นการโปรโมทเมนูเด็ดของร้าน หรือถ่ายเบื้องหลังการทำอาหาร เพื่อแสดงถึงความพิถีพิถันในการคัดเลือกวัตถุดิบ เอาใจใส่ในกรรมวิธีการทำ เป็นต้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : แม็คโคร โฮเรก้า อคาเดมี