หลายคนอาจจะเคยได้ยินประโยคที่ว่า “สมัยนี้ งานไม่ได้หาง่ายๆ” ประโยคนี้มีทั้งส่วนจริง และไม่จริง ด้วยปัจจัยหลายอย่าง อาทิ เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเข้ามาทดแทนทรัพยากรบุคคลได้ หรือคนที่มีความรู้ความสามารถรอบด้าน ซึ่งเป็นที่ต้องการในทุกองค์กร แต่หากเราสามารถพัฒนาตัวเองให้อยู่ในจุดที่มีความรู้ความสามารถรอบด้าน และรู้จักปรับตัวในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะไปสมัครงานที่ไหน ก็ย่อมเป็นที่หมายปองขององค์กรต่างๆ สำหรับน้องๆ ม.ปลาย ที่เริ่มมองหาคณะที่เป็นเส้นทางมุ่งสู่สายอาชีพที่ใฝ่ฝัน นอกจากจะต้องคำนึงถึงความชอบ ความสนใจของตัวเอง เพื่อเลือกเรียนคณะ มหาวิทยาลัยที่เหมาะสม และเปิดโอกาสให้พัฒนาตัวเองอย่างเต็มที่ พร้อมเข้าสู่โลกการทำงาน แต่สิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้น คือมองไปถึงอาชีพใหม่ๆ ในอนาคต หรืออาชีพที่จะมาแรง เพื่อเตรียมคว้าโอกาสเหล่านี้ไว้
บทความนี้จะพานั่งไทม์แมชชีนไปดู 5 อาชีพสุดปัง ที่กำลังจะมาแรงในปี 2025 กับทักษะที่ต้องมี หากไม่อยากตกงานในอนาคต สำหรับน้องๆ ที่สนใจว่าจะมีอาชีพอะไรที่น่าสนใจบ้าง และควรจะเตรียมพร้อมอย่างไร ไปดูกันเลย
1.นักบริหารความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
หลายบริษัทมีส่วนงานที่เชื่อมโยงกันระหว่างประเทศ นอกจากการติดต่อประสานงานกันตามหน้าที่หลักของบริษัทแล้ว (core job) การบริหาร รักษาความสัมพันธ์ รวมถึงแก้ไขความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำงานของทั้งสองบริษัท ก็เป็นอีกหนึ่งงานสำคัญที่จะทำให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างระยะยาวระหว่างสองบริษัท ที่จะส่งผลดีต่อการเจรจา และการทำธุรกิจร่วมกันในระยะยาว นักบริหารความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงจำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศนั้นๆ อย่างลึกซึ้ง รู้จักการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ประสานผลประโยชน์ระหว่างทั้งสององค์กร รวมทั้งรักษาผลประโยชน์สูงสุดของบริษัท
2.ผู้เชี่ยวชาญการท่องเที่ยว
เทรนด์การท่องเที่ยวประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากในแต่ละปีที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย จากสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า ประเทศที่ครองแชมป์นักท่องเที่ยวมาเยือนประเทศไทยสูงสุดอย่างต่อเนื่องคือ ประเทศจีน ในปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเยือนไทยจำนวนกว่าสิบล้านคน ส่วนอีกหนึ่งประเทศที่น่าจับตามอง ในแง่ของประเทศที่ดึงดูดเม็ดเงินด้านการท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยได้อย่างก้าวกระโดด ได้แก่ ประเทศอินเดีย โดยในปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวอินเดียทำเงินให้กับประเทศไทยสูงกว่า 5.6 หมื่นล้านบาท หรือสูงขึ้นร้อยละ 16.55 เมื่อเทียบกับปี 2560 ซึ่งนักท่องเที่ยวจากประเทศเหล่านี้ มีความต้องการเฉพาะในการมาท่องเที่ยวประเทศไทย จึงเริ่มมีธุรกิจบางประเภทที่เล็งเห็นโอกาสจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้
3.นักการตลาดออนไลน์ระหว่างประเทศ
หากพูดถึงสายงานที่มาเป็นอันดับหนึ่งอย่างต่อเนื่อง ย่อมหนีไม่พ้น “งานขาย” ซึ่งในอีก 5 ปีข้างหน้า งานขายจะยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง แต่มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนไปอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์หรือ E-Commerce มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ตลาด E-Commerce ของจีนที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ตั้งแต่ปี 2557-2561 มีการเติบโตเริ่มจากร้อยละ 13-28.6 เมื่อเปรียบเทียบกับมาร์เก็ตแชร์ของรีเทลธรรมดา และในอีก 5 ปีข้างหน้า การค้าขายบนแพลตฟอร์มนี้จะเติบโตขึ้นอย่างมาก อาชีพนักการตลาดออนไลน์ระหว่างประเทศจึงเป็นอีกอาชีพที่น่าสนใจ ผู้ที่จะเป็นนักการตลาดออนไลน์ระหว่างประเทศได้ ต้องมีความเข้าใจความต้องการ พฤติกรรมของผู้บริโภคในประเทศนั้นๆ รวมถึงธรรมเนียมการค้าระหว่างประเทศ ประกอบกับความสามารถด้านการจัดการข้อมูล และด้านไอที เพื่อวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในประเทศนั้นๆ
4.นักวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้า
อีกหนึ่งอาชีพที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน และเป็นที่พูดถึงกันอย่างมากก็คือ นักวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้า เนื่องด้วยในปัจจุบันเราอยู่ในยุคที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว หรือที่เรียกว่า “สภาวะข้อมูลท่วมท้น” การวิเคราะห์เซ็ตข้อมูลขนาดใหญ่ หรือบิ๊กดาต้า และนำมาเชื่อมโยงกับเทรนด์ทางการตลาด ความต้องการของผู้บริโภคจะช่วยให้บริษัทสามารถตัดสินใจทางธุรกิจ รวมทั้งปรับปรุงการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากทักษะด้านการวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้า (Big Data Analytics) ที่ต้องมีแล้ว ความสามารถทางด้านการสื่อสารกับคนนอกวงการไอทีให้รู้เรื่อง ทักษะด้านการนำเสนอ การทำงานเป็นทีม ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนทำงานด้านไอทีไม่ควรมองข้าม
5.เจ้าของธุรกิจ
ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่รักอิสระ ต้องการเป็นนายตัวเอง ประกอบกับผู้ประกอบการในยุคนี้ นิยมจ้าง outsource มากขึ้น เนื่องจากสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ถึงร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับการจ้างงานประจำ ทำให้ในปัจจุบัน มีผู้ประกอบอาชีพฟรีแลนซ์ในไทยมากกว่า 2 ล้านคน และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น 3-6 แสนคนในทุกปี โดยหมวดหมู่งานฟรีแลนซ์ 5 อันดับแรก ได้แก่ กราฟิกดีไซน์ การตลาดออนไลน์และโฆษณา เว็บและโปรแกรมมิ่ง งานเขียนและแปลภาษา และงานภาพและเสียง นอกจากความสามารถในแต่ละหมวดหมู่อาชีพ (Hard Skill) ที่ต้องมีแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้คนประกอบอาชีพฟรีแลนซ์มีความโดดเด่นและแตกต่างจากคนทำอาชีพฟรีแลนซ์เหมือนกัน ก็คือทักษะทางด้านสังคม (soft skill) หรือความสามารถในการติดต่อสื่อสาร การรู้จักเจรจาต่อรองอย่างมีศิลปะ หากมีทักษะทั้งหมดนี้ จะทำให้เติบโตในสายงานฟรีแลนซ์อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม การเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่โลกการทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ทั้งการเรียนรู้ด้านวิชาการ ความสามารถในการปรับตัวได้ และความมีทัศนคติแบบสากลนิยม จะช่วยเสริมสร้างคุณสมบัติที่องค์กรทั่วโลกต้องการ นอกจากการคาดการณ์ 5 อาชีพ ที่จะมาแรงในอีก 5 ปีข้างหน้าแล้ว บทความนี้ยังได้สรุป 5 ทักษะที่คนรุ่นใหม่ต้องมี เพื่อที่จะคว้าโอกาสในการทำงานในอนาคตไว้ ได้แก่ 1. ความสามารถทางด้านภาษา 2. ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ 3. การคิดเชิงวิพากษ์ 4. ความรู้ในหลากหลายศาสตร์ และ 5. ความสามารถทางการสื่อสารด้านวัฒนธรรม หากมีทักษะทั้งหมดนี้ รับรองว่าจะเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานทั่วโลก
ในส่วนของวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ (Pridi Banomyong International College: PBIC) มุ่งเน้นการเรียนการสอนในรูปแบบสหวิทยาการ (Interdisciplinary Studies) ได้เปิดหลักสูตรที่หลากหลาย สามารถนำมาต่อยอดกับสายอาชีพมาแรงในปี 2025 และไทยเป็นศูนย์กลางการค้าในอาเซียน ตอบโจทย์ความเป็นผู้เชี่ยวชาญที่รู้รอบด้านในแต่ละพื้นที่ เพื่อโอกาสการทำงานที่มากกว่าในอนาคต
สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.pbic.tu.ac.th สอบถามโทร. 0-2613-3720 หรือ facebook.com/PBIC.TU