โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

คปภ. เพิ่มภูมิคุ้มกันให้ “นักท่องเที่ยว” จ.นครนายก ด้วยระบบประกันภัย

ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยได้เวลาอุ่นใจเมื่อทาง คปภ.ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี กับโครงการ “ท่องเที่ยวอุ่นใจด้วยประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์”

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ตามแผนพัฒนาการประกันภัยฉบับที่ 3 ได้มุ่งเน้นให้ระบบประกันภัยมีความมั่นคง ดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ และประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการประกันภัย สามารถใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงของชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างเหมาะสม ดังนั้น สำนักงาน คปภ. จึงได้จัดโครงการส่งเสริมความรู้ด้านการประกันภัยเชิงรุกสู่สาธารณชนทั่วประเทศ “1 ภาค 1 ผลิตภัณฑ์” โดยมอบหมายให้สำนักงาน คปภ. ภาค 1-9 ขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว และในครั้งนี้เป็นการดำเนินโครงการของสำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ 

โดยเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2562 เลขาธิการ คปภ. ได้เป็นประธานเปิดโครงการ “ท่องเที่ยวอุ่นใจด้วยประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์” ณ โรงแรมภูเขางาม รีสอร์ท อำเภอเมือง จ.นครนายก โดยได้รับเกียรติจาก นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก กล่าวต้อนรับและเยี่ยมชมบูธนิทรรศการ ด้านประกันภัย ซึ่งจัดโดยสำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) ร่วมกับสำนักงาน คปภ. จ.นครนายก

เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนหนึ่งว่า สำนักงาน คปภ. ได้เล็งเห็นความสำคัญด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว “เมืองรอง” ที่มีการสนับสนุนให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือกระจายรายได้สูงเมืองรอง และชุมชน ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวและต่อยอดการรณรงค์สร้างความเข้าใจด้านการประกันภัยให้กับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป สำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) จึงได้เลือกจังหวัดนครนายก จัดกิจกรรม “ท่องเที่ยวอุ่นใจด้วยประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์” เนื่องจากเป็นเมืองรองที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ

จากสถิติในปี 2561 พบว่า มีนักท่องเที่ยว 2,181,950 คน ได้ท่องเที่ยวและทำกิจกรรมในพื้นที่ จ.นครนายกในรูปแบบต่างๆ อาทิ ล่องแพ ล่องแก่ง เล่นน้ำตก ปีนเขา ขี่จักรยาน ฯลฯ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ประกอบกับ จ.นครนายก มีผู้ลงทะเบียนประกอบการธุรกิจด้านการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องเร่งสร้างความรู้ความเข้าใจด้านการประกันภัยให้กับประชาชนทุกภาคส่วน รวมถึงสนับสนุนให้ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว จะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 และ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 ตามมาตรา 34 ที่ระบุให้ผู้ประกอบธุรกิจนําเที่ยวต้องจัดให้มีการประกันอุบัติเหตุให้แก่นักท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ และผู้นำเที่ยวในระหว่างเดินทางท่องเที่ยว ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและ มัคคุเทศก์ ประกาศ ณ วันที่ 20 กันยายน 2561 กล่าวคือ กฎหมายบังคับให้ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวทุกรายต้องจัดให้มีประกันภัยสำหรับอุบัติเหตุให้แก่ นักท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ และผู้นำเที่ยวในระหว่างเดินทางท่องเที่ยว โดยมีเงินเอาประกันภัยกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะหรือทุพพลภาพ ไม่ต่ำกว่า 1,000,000 บาท ต่อคน และกรณีบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท ต่อคน ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวไม่จัดให้มีประกันตามที่กฎหมายกำหนด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500,000 บาท

ภายหลังจากเปิดตัวโครงการ“ท่องเที่ยวอุ่นใจด้วยประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์” ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. พร้อมด้วยนายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการ จ.นครนายก ได้เดินทางไปที่ท่าเทียบเรือขุนด่านปราการชล ต.หินตั้ง อ.เมือง จ.นครนายก เพื่อร่วมจัดกิจกรรมกลางแจ้งรณรงค์ให้ความรู้ด้านประกันภัยให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป โดยเลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านประกันภัยผ่านโครงการ “ท่องเที่ยวอุ่นใจด้วยประกันภัยอุบัติเหตุสำหรับธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์” ในครั้งนี้ ถือเป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ในพื้นที่จังหวดนครนายกด้วยระบบประกันภัย รวมไปถึงการเสริมสร้างความรู้ที่เกี่ยวกับสถิติ สาเหตุ และอันตรายจากอุบัติเหตุส่วนบุคคล และอุบัติเหตุกลุ่ม เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการภาคธุรกิจท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวได้ตระหนักถึงความสำคัญของการนำระบบประกันภัยมาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายอันเกิดจากอุบัติเหตุจากการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับนักท่องเที่ยว ตลอดจนช่วยให้ผู้ประกอบการมีต้นทุนที่คงที่ลดความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจ หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในระหว่างให้บริการ แก่นักท่องเที่ยว

“การจัดโครงการในครั้งนี้ สำนักงาน คปภ. มีความคาดหวังว่าผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ใน จ.นครนายก จะตื่นตัวและเล็งเห็นความสำคัญของการนำเอาระบบประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจท่องเที่ยว รวมทั้งกรณีที่ภาครัฐ เอกชนและประชาชนทั่วไปเดินทางท่องเที่ยวโดยรถเช่าเหมาที่ไม่ผ่านบริษัททัวร์จะได้ตระหนักและเห็นถึงประโยชน์ของการทำประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลและประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มอันจะส่งผลให้ผู้ประสบภัยจากการท่องเที่ยวได้รับความคุ้มครองจากระบบประกันภัยอย่างเป็นระบบและ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวโดยรวมของ จ.นครนายกอีกด้วย” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย