สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน (ASEAN-BAC) กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ร่วมกันจัดงาน ASEAN Business and Investment Summit 2019 (ABIS 2019)
เพื่อเป็นเวทีให้ผู้นำประเทศต่างๆ ได้แสดงวิสัยทัศน์และมุมมองในหลากหลายประเด็นที่เป็นโอกาสและความท้าทายภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกที่ทวีความรุนแรงอยู่ในขณะนี้ อาทิ ประเด็นทางด้านการค้า การลงทุน และการอำนวยความสะดวกด้านการประกอบธุรกิจ รวมทั้งการรวมตัวทางเศรษฐกิจและความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน โดยจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2562 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานจำนวนกว่า 800 คน
นายอรินทร์ จิรา ประธานสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจอาเซียน (ASEAN Business Advisory Council : ASEAN-BAC) และรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน (ASEAN-BAC) ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เป็นเจ้าภาพจัดงาน ASEAN Business and Investment Summit 2019 (ABIS 2019) ระหว่างวันที่ 2-3 พฤศจิกายน 2562 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ซึ่งงาน ABIS จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดยภาคเอกชนของประเทศที่ดำรงตำแหน่งเป็นประธานอาเซียนในปีนั้นๆ ซึ่งในปี 2562 นี้ ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพการประชุมอาเซียน ทั้งนี้ คณะผู้จัดงานได้เรียนเชิญผู้นำจากประเทศในภูมิภาคอาเซียนและนอกภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ ไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย เมียนมา ลาว กัมพูชา บรูไน สิงค์โปร์ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เกาหลี รัสเซีย แคนาดา และอินเดีย มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์และประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาภูมิภาคอาเซียน
อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้บริหารระดับสูงจากจากหน่วยงานต่างๆเข้าร่วมอภิปรายและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและประสบการณ์ในหลากหลายประเด็น อาทิ แอร์เอเชีย, เอสซีจี, ธนาคารกรุงเทพ, กลุ่มบริษัท แอนท์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส, มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป, หัวเว่ย, สิงคโปร์เทเลคอมมูนิเคชันส์, โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน, แกร็บ และสิงห์คอร์ปอเรชั่น สำหรับผู้บริหารระดับสูงขององค์กรระหว่างประเทศที่เชิญร่วมอภิปรายภายในงาน อาทิ องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) และสภาเศรษฐกิจโลก (WEF) เป็นต้น
สำหรับงาน ABIS 2019 ครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “Empowering ASEAN 4.0” ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดหลักที่ ASEAN-BAC สนับสนุนและผลักดันการดำเนินงานในปี 2562 โดยจะมุ่งเน้น 4 เสาหลัก คือ
- Digital Infrastructure (พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้วยเทคโนโลยี)
- Digital Connectivity (สร้างความเชื่อมโยงทางด้านดิจิทัล เพื่อรองรับการค้า การลงทุนในอาเซียน)
- Human Empowerment and Development (พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดความสามารถใหม่และลดปัญหาการว่างงานในอาเซียน)
- MSME (ผลักดันให้ MSME เข้าถึงนวัตกรรมและเงินทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันให้แก่ MSME
ทั้งนี้ หัวข้อการสัมมนาที่สอดคล้องกับ “Empowering ASEAN 4.0” ประกอบด้วย 6 หัวข้อ ดังนี้
- การส่งเสริมอาเซียนก้าวสู่ห่วงโซ่มูลค่าระดับโลก (Global Value Chain)
- การเสริมสร้างเศรษฐกิจอาเซียนสู่ความยั่งยืน โดยอาศัยแนวคิด “เศรษฐกิจหมุนเวียน” (Circular Economy)
- การสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ที่เป็น MSME ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการเงิน (Access to finance)
- การปรับเปลี่ยนธุรกิจในอาเซียนเข้าสู่ยุคดิจิทัล และการเสริมความเชื่อมโยงด้านดิจิทัล (Digital Transformation)
- การเสริมสร้างสมรรถนะของทรัพยากรมนุษย์ให้เกิดความสามารถใหม่และลดปัญหาการว่างงาน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี
- การเสริมสร้างเครือข่ายความเป็นพี่เลี้ยงให้แก่ผู้ประกอบการ MSME ในอาเซียน (AMEN)
ในระหว่างการจัดงาน ABIS 2019 จะมีการจัดกิจกรรมคู่ขนาน อาทิ งานแสดงสินค้า งานจับคู่ทางธุรกิจ งานประชุมหารือกับภาคเอกชนและภาคธุรกิจ และงานส่งเสริมโอกาสทางธุรกิจและเสริมสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ ซึ่งการจัดกิจกรรมคู่ขนานดังกล่าวจะเป็นการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ การส่งเสริมการขยายตลาดของผู้ประกอบการและการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ
สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานจะมีค่าลงทะเบียน ดังนี้ 1) ท่านที่เข้าร่วมทั้ง 2 งาน ABIS และ ABA ราคา 500 USD, Early Bird ลดเหลือเพียง 300 USD เท่านั้น 2) ท่านที่เข้าร่วม 1 งาน ราคา 300 USD, Early Bird ลดเหลือเพียง 200 USD) โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.aseanbac2019.org