ว่ากันว่าการจะซื้อแฟรนไชส์มาเปิดเป็นกิจการของตัวเองนั้น เป็นอะไรที่ประสบความสำเร็จง่ายกว่าการเริ่มต้นทำธุรกิจเอง เพราะแฟรนไชส์มีระบบสนับสนุนให้ แล้วได้ผ่านการทดลองพิสูจน์ตลาดมาให้เราแล้วในระดับหนึ่ง แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น การจะซื้อแฟรนไชส์มาเป็นของตัวเอง ก็มีอะไรที่ต้องให้ขบคิดอีกมาก และสิ่งหนึ่งที่เราจำเป็นต้องรู้และคำนวณให้ดีก็คือ ค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการลงทุน ซึ่งโดยส่วนใหญ่ที่เราต้องคำนึง ได้แก่
1.ค่าธรรมเนียมแรกเข้า
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า หรือ เรียกอีกอย่างหนึ่งก็คือ ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ (Franchise Fee) ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมก้อนแรก ก้อนใหญ่ ก้อนเดียว ที่เราต้องจ่ายไปเพื่อซื้อเครื่องหมายการค้า ซื้อความรู้ ซื้อระบบ เทคนิคต่างๆ ในการบริหารจัดการแฟรนไซส์ และซื้อสิทธิ์ในการขายสินค้าและบริการนั้นๆ โดยแต่ละแฟรนไชส์ แต่ละธุรกิจก็จะมีราคาต่างกัน ตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักล้าน ซึ่งเราจะเลือกซื้อแฟรนไชส์อะไร ก็ต้องพิจารณาค่าธรรมเนียมตรงนี้ก่อนด้วยว่า เราจ่ายไหวมากน้อยแค่ไหน
2. ค่าธรรมเนียมรายงวด
นอกจากค่าซื้อแฟรนไชส์ก้อนใหญ่แล้ว สิ่งที่เราต้องจ่ายอีกเป็นรายเดือน หรือรายปี แล้วแต่เงื่อนไขก็คือ ค่าธรรมเนียมการจัดการ หรือ Royalty Fee ซึ่งโดยมากจะคำนวณจากยอดขาย ยอดสั่งซื้อ หรือผลกำไรในการดำเนินธุรกิจ โดยเงินจำนวนนี้จะได้รับการเก็บไปเพื่อใช้ในการบริหารจัดการ ตรวจสอบมาตรฐาน รวมถึงเป็นค่าใช้จ่ายในการที่แฟรนไชส์แม่จะนำมาใช้ในการสนับสนุนผู้ซื้อแฟรนไชส์นั่นเอง
3. ต้นทุนในการเปิดร้าน
นอกจากค่าแฟรนไชส์ต่างๆ แล้ว อย่าลืมเป็นอันขาดว่า เรายังมีต้นทุนอื่นๆ อีก อาทิ ค่าใช้จ่ายทั่วไป เงินเดือนพนักงาน ต้นทุนในการสั่งซื้อสินค้า ซึ่งหากเราคำนวณพลาด ไม่เตรียมเงินสำรองฉุกเฉิน ไม่เตรียมเงินทุนหมุนเวียนให้ดี ก็จะส่งผลทำให้มีโอกาสผิดพลาดและล้มเหลวได้ง่ายมากขึ้น
4. ต้นทุนในการตกแต่งร้าน
การซื้อแฟรนไชส์มาเปิดนั้น เราจะต้องซื้อแบรนด์ซื้อภาพลักษณ์ของแฟรนไชส์มาด้วย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีค่าใช้จ่ายในการตกแต่งร้านใหม่ ให้ได้ตามมาตรฐานภาพลักษณ์ที่แฟรนไชส์กำหนด ซึ่งเราต้องดูให้ดีว่าแฟรนไชส์กำหนดเงื่อนไขไว้อย่างไร ได้รวมเอาไว้แล้วกับค่าแรกเข้าหรือไม่ หรือจะต้องจ่ายแยก และมีค่าใช้จ่ายเท่าไร เพื่อให้เราสามารถคำนวณต้นทุนได้อย่างครอบคลุมสำหรับการเริ่มต้นกิจการ
บ่อยครั้งในการมองหาแฟรนไซส์เพื่อซื้อมาสร้างธุรกิจของตัวเอง บางคนโฟกัสแต่เพียงว่า “ค่าแฟรนไชส์” ไม่แพง สามารถจ่ายไหว จนเผลอลืมไปว่าในรายละเอียดลึกๆ แล้วนั้น ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เราต้องคำนวณและสำรองเอาไว้ด้วย เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจในช่วงต้นไปได้อย่างราบรื่น ดังนั้นแล้ว ก่อนจะตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ใด จึงควรต้องศึกษาข้อมูลเรื่องค่าใช้จ่ายให้ดีเสียก่อน เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จให้ได้มากขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.quickservice.co.th