ขึ้นชื่อว่า “น้ำพริก” คงไม่มีใครปฏิเสธถึงรสชาติความเผ็ดร้อนแต่มีความอร่อยแซ่บสะเด็ดแบบถึงใจ ซึ่งในบ้านเราเองก็มีน้ำพริกหลากหลายเมนูและวิธีขั้นตอนการปรุง หรือสำหรับใครไม่สะดวกทำน้ำพริกรับประทานเองก็สามารถซื้อหามารับประทานได้
สำหรับใครที่ไม่ชอบความจำเจ ชี้ช่องรวย ขอแนะนำเมนูน้ำพริกนามว่า “น้ำพริกกากหมู” มาให้ลองฝึกวิทยายุทธกันดูค่ะ ซึ่งเจ้าน้ำพริกกากหมูนี้ มีจุดเด่นในเรื่องรสชาติที่มีความกรุบกรอบของเจ้ากากหมูที่รวนเอาน้ำมันออกให้เหลือแต่กาก เวลารับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ นี่ แค่คิดก็ชวนให้น้ำลายสอกันแล้วใช่ไหมคะ แถมยังเก็บไว้ได้นานไม่บูดเสียง่าย ที่สำคัญทำประทานเองแล้ว ยังสามารถทำขายตามตลาดนัดหรือช่องทางออนไลน์สร้างรายได้เสริมเข้ากระเป๋าเราด้วยนะคะ โดยวันนี้เรานำมาให้ลองฝึกกัน 3 สูตร คือ น้ำพริกกากหมู ใส่กุ้งแห้ง น้ำพริกกากหมู และ น้ำพริกพริกกรอบกากหมู เราไปดูวัตถุดิบและวิธีการทำกันเลยค่ะ
1.น้ำพริกกากหมู ใส่กุ้งแห้ง
สูตรนี้เรานำมาจาก คุณสมาชิกหมายเลข 1721564 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่มีนำเอากากหมูมาคลุกเคล้ากับเครื่องน้ำพริกแล้วค่อยนำไปคั่วในกระทะจนแห้ง ดังนี้
ส่วนผสม น้ำพริกกากหมู
1.มันหมูติดหนัง
2.เกลือ
3.กุ้งแห้ง
4.น้ำตาลทราย
5.มะขามเปียก
6.พริกแห้ง
7.กระเทียม
8.หอมแดง
วิธีทำน้ำพริกกากหมู
1.นำมันหมูที่ติดหนังไปต้ม เพื่อจะได้ง่ายเวลาเอาหนังออก แยกหนังและมันออกจากกัน หนังแล่เป็นเส้น ปรุงรสด้วยเกลือนิดหน่อย ตากแห้งเป็นแคบหมู มันหมูเอาไปเจียว
2.ตั้งกระทะใส่มันหมูลงไปเจียวจนสุกสีเหลือง ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน
3.ปอกเปลือกกระเทียม หั่นตามชอบ ปอกเปลือกหอมแดงนำไปเจียวต่อ
4.เอาพริกแห้งไปคั่วแค่เปลือกเปลี่ยนสี และเอากุ้งแห้งไปคั่วจนหอม
5.โขลกพริกแห้งคั่ว เติมเกลือไปหน่อย ๆ พอพริกละเอียด ใส่กุ้งแห้งที่คั่วไปโขลกต่อ ใส่กระเทียมเจียว บ้านไหนชอบแบบเป็นชิ้นก็ไม่ต้องโขลก เหยาะน้ำมะขามเปียกลงไปหน่อย โขลกให้เข้าเนื้อสักพัก ตักกากหมูเจียวตามลงไปในครก ใช้ทัพพีคนให้เข้ากัน
6.ตั้งเตาวางกระทะ เทน้ำพริกกากหมูลงไปคั่วอีกรอบ ใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำตาลนิดหน่อยเพื่อไม่ให้เค็มโดดเกินไป คั่วต่อสักพัก เอาน้ำมะขามเปียกแบบเจือจาง ไม่ต้องข้นมาก ค่อย ๆ หยอดทีละนิด แล้วคั่วไปเรื่อย ๆ จนเข้าเนื้อ ยกออกจากเตาพร้อมเสิร์ฟ ส่วนที่เหลือรอให้เย็น แพ็คใส่ถุงเก็บเข้าตู้ กินได้นาน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : คุณสมาชิกหมายเลข 1721564 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
2.น้ำพริกกากหมู
สูตรนี้มาจาก คุณแม่มณีมีของกิน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่มีการเจียวกากหมูจนกรอบแล้วตำพอแตก แล้วมาคลุกเคล้ากับหอมเจียวและกระเทียมเจียว ปรุงรสให้เผ็ดตามชอบ กินกับข้าวสวย ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน หรือไข่ต้มก็อร่อยเด็ดดวงไปเลยจ้า
ส่วนผสม น้ำพริกกากหมู
1.มันหมู (หั่นเส้น) 2+1/2 กิโลกรัม
2.หอมแดง
3.กระเทียม
4.น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
5.เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
6.พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำน้ำพริกกากหมู
1.เอามันหมูใส่กระทะ เจียวจนเหลืองกรอบ เมื่อได้กากหมูที่เจียวไว้เรียบร้อย ก็นำมาใส่ครกตำเบา ๆ พอแตก แต่ไม่ต้องละเอียด
2.ซอยหอมแดงกับซอยกระเทียม เสร็จแล้วเอาแต่ละอย่างไปทอดจนกรอบ แล้วพักไว้รอให้เย็น
3.ใส่หอมเจียวกับกระเทียมเจียวลงในกากหมู คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำตาลทรายกับเกลือ
4.ส่วนพริกป่น ใช้พริกแห้งเอามาคั่วเองแล้วปั่น ก็เลยใส่ไปแค่ 1 ช้อนโต๊ะ เพราะเผ็ดมาก คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่กระปุกแช่ตู้เย็นไว้ อยากกินเมื่อไรก็เอาออกมาตั้งให้คลายความเย็น หรือจะตักใส่ข้าวสวยร้อน ๆ ก็ดีงาม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : คุณแม่มณีมีของกิน สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
3.น้ำพริกกากหมูพริกกรอบ
สูตรนี้นำมาจาก แม่แหม่ม Kanchana Iijima สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่เริ่มจากเอาเมล็ดพริกออกแล้วเอาไปต้มเพื่อลดความเผ็ด เสร็จแล้วก็คลุกเคล้าเครื่องปรุงรสและงา สุดท้ายก็เอาไปทอดจนกรอบ
ส่วนผสม น้ำพริกพริกกรอบกากหมู
1.กากหมูทอดกรอบ 1 กิโลกรัม
2.กระเทียมสด 1/2 กิโลกรัม (นำไปเจียว)
3.หอมแดงกับต้นหอมสด 1/2 กิโลกรัม (นำไปเจียว)
4.พริกกรอบตามชอบ
5.เกลือ 1+1/2 ช้อน
6.น้ำตาล 4-5 ช้อน
7.ผงปรุงรส
8.พริกป่น 1 ช้อน (ตามชอบ)
ส่วนผสม พริกกรอบ
1.พริกแห้ง
2.เกลือ
3.ผงปรุงรส
4.ผงหมาล่า หรือผงต้มยำ
5.งาขาว
6.แป้งทอดกรอบ
7.น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำน้ำพริกพริกกรอบกากหมู
1.ทำพริกกรอบโดยใช้มีดกรีดเอาเมล็ดออก (พริกแห้งแนะนำเป็นพริกจินดา) ถ้ากลัวแสบร้อนก็ใส่ถุงมือ ต่อมาก็เอาไปต้มเพื่อลดความเผ็ดค่ะ (ในสูตรต้ม 2 น้ำ) พอต้มพริกแห้งเสร็จให้ล้างน้ำจนน้ำใสและสะเด็ดน้ำ ใส่พริกลงในอ่างผสม ใส่ส่วนผสมอื่น ๆ ได้แก่ เกลือ ผงปรุงรส ผงหม่าล่า งาขาว และแป้งทอดกรอบ คลุกเคล้าให้เข้ากัน
2.ตั้งไฟทอดพริกใช้ไฟกลาง ทอดจนพริกเป็นสีส้ม (ถ้าสียังแดงอยู่จะไม่กรอบ) ทอดจนกรอบได้ที่ก็ตักขึ้น พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน เพื่อเพิ่มความกรอบจะใช้หม้ออบลมร้อนอบเพื่อไล่น้ำมันก็ได้
3.นำส่วนผสมทุกอย่างมาคลุกและปรุงรสตามชอบ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : แม่แหม่ม Kanchana Iijima สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม