‘วีรศักดิ์’สั่งกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจับเข่าคุยกัมพูชา หวังปลดล็อคด่านการค้าในพื้นที่นครชัยบุรินทร์ให้สามารถบุกตลาดประเทศเพื่อนบ้านได้มากขึ้น
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในโอกาสที่นำผู้บริหาร 3 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมทรัพย์สินทางปัญญา ลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พบปะหารือกลุ่มธุรกิจ SMEs หอการค้าจังหวัด และ Biz Club
ในกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ 4 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2562 เพื่อรับฟังข้อเสนอข้อเท็จจริง สถานการณ์ ปัญหาทางการค้า ของภาคธุรกิจในพื้นที่ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจฐานรากในจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือเชื่อมโยงกับตลาดต่างประเทศ
นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ได้ใช้โอกาสนี้แจ้งผู้ประกอบการทราบว่า หนึ่งในภารกิจที่สำคัญภายใต้ยุทธศาสตร์ “นครชัยบุรินทร์ ประตูอีสานสู่สากล” (NAKORN CHAIBURIN Northeast Gateway to Global Communities) คือการช่วยให้สินค้าที่มีศักยภาพในภาคอีสานตอนล่าง โดยเฉพาะสินค้าเกษตรสำคัญ เช่น ข้าว มะม่วง สับปะรด ข้าวโพด และ ส้มโอ
หรือแม้แต่สินค้าที่เป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่น อาทิ ผ้าไหมปักธงชัย เป็นต้น ให้สามารถขยายสู่ต่างประเทศได้มากขึ้น โดยมั่นใจว่าจะทำให้สินค้าท้องถิ่นนครชัยบุรินทร์สามารถขยายเข้าสู่เขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้มากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ในส่วนการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ไทย-กัมพูชา ได้สั่งการให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศร่วมมือกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเร่งผลักดันประเด็นที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มผู้ค้าชายแดนได้มากยิ่งขึ้น โดยผ่านการหารือของคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-กัมพูชา (JTC) เพื่อขยายความร่วมมือและลดปัญหาอุปสรรคทางการค้า อาทิ
การผลักดันที่จะยกระดับจุดผ่อนปรนทางการค้าด้านจังหวัดบุรีรัมย์ให้เป็นด่านการค้าถาวร ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นอีกช่องทางให้การค้าชายแดนด้านนี้สามารถขยายตัวได้มากขึ้น รวมถึงจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ได้มากขึ้นด้วย ซึ่งไทยมุ่งกระชับความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการค้ากับกัมพูชาที่ 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2563 และบรรลุเป้าหมายการค้ากับ สปป.ลาว ที่ 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2564
สำหรับการค้าของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และมาเลเซีย ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 (ม.ค.-มิ.ย.) มีมูลค่า 23,309.01 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปประเทศดังกล่าวมูลค่า 12,890.64 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกหลักของไทยไปประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เครื่องดื่มบำรุงกำลัง รถจักรยานยนต์ น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำตาลทราย นมถั่วเหลือง โลชั่นบำรุงผิว ผลไม้ (ทุเรียน ขนุน ชมพู่) เป็นต้น
และเป็นการนำเข้ามูลค่า 10,432.38 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนสินค้านำเข้าหลักจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ก๊าซธรรมชาติ โค กระบือมีชีวิต พริกสด เมล็ดงา เสื้อผ้าสำเร็จรูป ปลาหมึกสดแช่เย็นแช่แข็ง เป็นต้น