กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เล็งเห็นโอกาสการเติบโตของสินค้าไทยบนตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มสินค้าแฟชั่นและสุขภาพและความงาม ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในตลาดจีน เตรียมผลักดัน “TopThai Flagship Store” บนเว็บไซต์ Tmall Global และพร้อมขยายความร่วมมือกับแพลตฟอร์มพันธมิตรชั้นนำทั้งในประเทศไทยและในตลาดศักยภาพ
นายวิทยากร มณีเนตร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ความต้องการสินค้าไทยในตลาดจีนมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสินค้าไทยในสายตาลูกค้าชาวจีนเป็นสินค้าที่มีคุณภาพสูง โดยเฉพาะสินค้าในหมวดสุขภาพและความงาม (Personal Care) และ สินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ (Fashion & Lifestyle) ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าขายดีบนช่องทางออนไลน์ในจีน เพื่อส่งเสริมการขายสินค้าไทยในกลุ่มดังกล่าว กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจึงมีแผนจัดตั้ง “TopThai Flagship Store” บนเว็บไซต์ Tmall Global ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มในรูปแบบ B2C ที่มียอดขายอันดับ 1 ในจีนที่เน้นขายสินค้าที่มีชื่อเสียงและเป็นของแท้จากต่างประเทศ ซึ่งกรมเล็งเห็นว่าจะเป็นโอกาสอันดีของผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดสินค้าในกลุ่มดังกล่าวสู่กลุ่มเป้าหมายคือผู้หญิงจีนที่นิยมซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 250 ล้านคน และมีกำลังซื้อสูงถึง 20 ล้านล้านบาท
การจัดตั้ง “TopThai Flagship Store” บน TMall Global ในครั้งนี้ จะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการรักษาและขยายตลาดจีนซึ่งเป็นตลาดหลักที่สำคัญของประเทศไทย โดยคาดว่าจะสามารถรวบรวมสินค้าไทยคุณภาพในกลุ่มสินค้าสุขภาพและความงาม และ สินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ จากผู้เข้าร่วมโครงการทั้งแบรนด์ชั้นนำของไทยและแบรนด์สินค้าคุณภาพของ SMEs ไทยกว่า 50 บริษัท และมีสินค้าขึ้นขายใน TopThai Flagship Store กว่า 1,000 รายการสินค้า นอกจากนี้ กรมได้วางแผนการตลาดออนไลน์เชิงรุกเพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขายสินค้าไทยในร้านค้า พร้อมเตรียมทำแคมเปญส่งเสริมการขายในช่วงเทศกาลสำคัญของจีนที่กำลังจะมาถึง อาทิ แคมเปญ 11.11 หรือ แคมเปญคนโสด (Singles’ Day) ซึ่งเป็นช่วงเวลาในการกระตุ้นยอดขายที่ใหญ่ที่สุดของนักช้อปในประเทศจีน
นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศยังเตรียมนำพันธมิตรอีคอมเมิร์ซชั้นนำอื่นๆ จากไทย อาทิ Kha-leang.com ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในตลาด CLMV และชั้นนำระดับโลก ได้แก่ Amazon ลงพื้นที่จังหวัดสงขลา และจังหวัดนครราชสีมา ภายใต้โครงการ “พาณิชย์สัญจร” ที่จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 28 -31 สิงหาคม 2562 เพื่อส่งเสริมสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป และสินค้าระดับท้องถิ่นซึ่งเป็นสินค้าที่มีอัตลักษณ์และมีความโดดเด่นในเรื่องของคุณภาพและราคาที่เหมาะสม พร้อมทั้งขยายโอกาสให้กับผู้ประกอบการในส่วนภูมิภาคมากยิ่งขึ้นในการเข้าสู่การค้าออนไลน์ระดับสากลผ่านแพลตฟอร์ม Thaitrade.com – B2B2C e-Marketplace ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ร่วมมือกับพันธมิตรอื่นๆ เพื่อการขยายมูลค่าการส่งออกไทยผ่านช่องทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ตลาดสหรัฐอเมริกา (Amazon และ eBay) ตลาดอเมริกาใต้ (B2Brazil) ตลาดแอฟริกา (Gosoko) ตลาดสิงคโปร์ (Redmart และ ShopJJ) ตลาดเมียนมา (Bagantrade) ตลาดเกาหลีใต้ (TradeKorea และ Coupang) ตลาดฮ่องกง (HKTDC) นายวิทยากร กล่าว
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจการส่งออกสินค้าสู่ตลาดต่างประเทศผ่านช่องทางออนไลน์สามารถติดต่อได้ที่ Thaitrade.com Center โทร. 02 507 7825 หรือ DITP Call Center 1169 หรือ อีเมล์ [email protected] และติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.facebook.com/ThaitradeDotCom