หากเอ่ยถึงตลาดในประเทศจีนซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่มาก และมีนักลงทุนหรือผู้ประกอบการจากหลายประเทศต่างให้ความสนใจเข้าไปลงทุนในทุกภาคของธุรกิจ ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยเอง
และเมื่อเอ่ยถึงสินค้าในประเทศไทย ที่ชาวจีนหลายคนต่างให้ความสนใจ และเชื่อมั่นในคุณภาพ โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวกับการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นพืชผักผลไม้ โดยเฉพาะผลไม้ที่ได้รับความนิยมของประชากรจีนอย่างมาก นั่นก็คือ ทุเรียน รองลงมาก็ได้แก่ มังคุด ลองกอง ลำไย เรียกได้ว่าหากเป็นพืชผลที่มาจากฝั่งไทย ลูกค้าชาวจีนรับหมด
สำหรับหนึ่งในผลิตผลสินค้าเกษตรของไทยนั่นก็คือ ผลไม้แปรรูป จะเห็นได้ว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวในบ้านเรามักจะซื้อกลับไป จึงเป็นที่มาของการทำธุรกิจผลไม้แปรรูปของ “คุณพศิน อุตวงศ์" เจ้าของผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูปแบรนด์ “สามเกลอ – SAM GLER” ห.จ.ก ประยงค์การเกษตร ชี้ช่องรวย ได้พูดคุยถึงแนวคิดการทำธุรกิจด้วยการนำสินค้าไปเปิดตลาดที่ประเทศจีน พร้อมทั้งพูดคุยในเรื่องมุมมองทางธุรกิจในฐานะผู้บริหารรุ่นใหม่ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจยุคดิจิทัลในปัจจุบัน
มุมมองตลาดในประเทศจีนเป็นอย่างไร และสานต่อธุรกิจการค้าระหว่างประเทศอย่างไรกับตลาดยักษ์ใหญ่อันดับต้นๆ ของโลก
ผมมองว่า จีน เป็น ประเทศขนาดใหญ่ ที่มีจำนวนประชากรมหาศาล มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติหลายแห่ง ซึ่งแน่นอนว่าจำนวนประชากรที่มากขนาดนี้ย่อมต้องเกิดความวุ่นวาย แต่ในอีกมุมหนึ่ง จีน นั้นเป็นตลาดที่นักธุรกิจหลายประเทศต่างจับตามอง พร้อมทั้งพยายามหาช่องทางเข้ามาแบ่งชิ้นเค้กทางเศรษฐกิจ ที่แม้ว่าในปัจจุบันอาจจะดูซบเซาลงไปบ้างกับวิกฤตทางเศรษฐกิจในช่วงปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี จีนก็ยังคงมีศักยภาพในแง่ของการเติบโต เพราะตลาดที่กว้างและผู้บริโภคมีกำลังซื้อ ซึ่งถือว่าโอกาสทางเศรษฐกิจยังมีอีกมากมายครับ
“จากประสบการณ์ที่ได้มีโอกาสเข้าไปศึกษาตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศจีน ทำให้ผมได้เห็นถึงโอกาสในเรื่องของการนำสินค้าเกษตรเข้ามาเปิดตลาดในจีน ด้วยการเป็นผู้นำเข้าและส่งออกผลไม้ของทั้งสองประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ส้มโอ มังคุด ลำไย และเผือกของไทย ส้มแมนดารินของจีน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยแนะนำประสบการณ์ทางธุรกิจทั้งเคล็ดลับการประสบความสำเร็จ ปัญหาอุปสรรค และแนวทางการแก้ไขผ่าน ชี้ช่องรวย ไปบ้างแล้ว แต่สำหรับครั้งนี้ผม จะขอถ่ายทอดประสบการณ์ครั้งใหม่ ที่มีทีมงานและผู้ร่วมอุดมการณ์ ซึ่งมีความร่วมมือทางธุรกิจกันแบบพี่น้อง”
จากปัญหาทางเศรษฐกิจในจีนที่ชะลอตัวลง มีการดำเนินธุรกิจต่อเนื่องอย่างไร
ต้องยอมรับว่า หลังจากที่จีนประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจและเราได้รับผลกระทบไปด้วย จนทำให้ต้องห่างๆ ตลาดจีนไปบ้าง แต่ไม่ได้หายไปจากวงการสินค้าต่างประเทศเสียเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับ จีน นั้น เรายังคงดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม
“ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ผมติดต่อธุรกิจกับจีนน้อยลง เป็นเพราะเศรษฐกิจของจีนในช่วงดังกล่าวชะลอการเติบโต จึงหันไปมองหาโอกาสธุรกิจกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง พม่า ลาว และอินโดนีเซีย โดยเน้นสินค้าเกษตรเช่นเดิม อาทิ ขิง กระเทียมเจียว หอมเจียว ซึ่งสินค้าเหล่านี้กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดอาเซียน และยังรวมถึงในประเทศไทยของเราด้วย”
ขณะเดียวกัน ธุรกิจที่บ้านที่ จ.เชียงรายก็กำลังขยายตัว โดยเฉพาะธุรกิจกาแฟ จึงได้ลงทุนเปิดร้านกาแฟในตัวเมืองเชียงราย รวมไปถึงทำธุรกิจนำเข้าส่งออกเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ต่างๆ ไปยังตลาดอาเซียน พร้อมทั้งจัดส่งกระจายสินค้าไปยังร้านกาแฟหลายแห่งในไทย นอกจากนี้ ยังได้เปิดคลังสินค้าห้องเย็นที่เชียงราย เพื่อเป็นโกดังรับฝากสินค้าที่นำเข้าจากพม่า ลาวและจีน ซึ่งผมมองว่า ธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็นในจังหวัดเชียงรายนั้น จะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ผมจะให้ความสำคัญสร้างฐานลูกค้าให้มั่นคงยิ่งขึ้น เนื่องจากจังหวัดเชียงรายถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการรวบรวมและกระจายสินค้า
“อย่างไรก็ดี ผมก็ไม่ได้ขาดการติดต่อกับทางจีน โดยยังคงเดินทางไปที่จีนเพื่อศึกษาหาช่องทางการส่งออกสินค้าไทยเพิ่มเติม และนำเข้าสินค้าจีนมายังประเทศไทยเช่นเดิมด้วย และยังได้มาเยี่ยมเยียนพบปะพี่ๆ เพื่อน ๆ ทั้งคนไทยและจีนที่อยู่ในแต่ละเมือง ซึ่งที่ผ่านมาคนเหล่านี้ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนผมมาโดยตลอด และที่สำคัญคือ นครเฉิงตู เป็นเสมือนเป็นบ้านหลังที่สองที่ผมได้ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เป็นเวลา 4 ปี ตั้งแต่ศึกษาในระดับปริญญาตรี พร้อมกับฝึกฝนกลยุทธ์เพื่อดำเนินธุรกิจ ซึ่งการกลับไปในครั้งนี้ ทำให้จุดประกายความคิดในการเริ่มต้นดำเนินธุรกิจใหม่ของผมในทันที”
เกี่ยวกับการตัดสินใจลุยตลาดจีนอีกครั้ง กับโอกาสสินค้าผลไม้ไทยแปรรูปในแดนมังกร
จากความคิดและแนวทางใหม่ๆ ที่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นมาจากการได้สนทนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน ระหว่างผมกับรุ่นพี่ซึ่งได้พูดคุยกันถึงโอกาสและช่องทางธุรกิจระหว่างไทยกับจีน เราได้หยิบยกเอาประสบการณ์ต่าง ๆ ของแต่ละคนมาแลกเปลี่ยนกัน โดยเฉพาะในเรื่องของการนำเข้าส่งออกผลไม้สดที่ดำเนินธุรกิจอยู่ก่อนแล้ว ทำให้ได้ค้นพบอุปสรรคทางด้านไหนบ้าง เช่น สินค้าเกิดความเสียหาย ขนาดสินค้าไม่ตรงกับความต้องการ ผลไม้สุกก่อนที่ถึงมือผู้บริโภค เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นความเสี่ยงที่ในบางครั้งเราเองไม่สามารถควบคุมได้
“ความคิดของเราเริ่มต้นจากที่รุ่นพี่ได้เสนอแนวคิดที่จะทำผลไม้ไทยแปรรูปเพื่อแก้ปัญหาผลไม้เน่าเสียระหว่างทาง ซึ่งผลไม้ไทยเองก็มีมากมายหลายชนิด สามารถนำมาแปรรูปได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น อบแห้ง อบกรอบ ทอดกรอบ กวน ตลอดจนทำในรูปแบบทอฟฟี่รสผลไม้ ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งโอกาสในการขยายธุรกิจในตลาดจีน เราต่างลงความเห็นกันว่า มันน่าสนใจดีนะ”
จึงเป็นที่มาของแบรนด์ “สามเกลอ-SAM GLER”
เราทั้งสองได้วิเคราะห์ถึงโอกาสและความเป็นไปได้ของตลาดจีน ว่าผลไม้ไทยแปรรูปประเภทไหนที่จะเป็นสินค้าตัวแรกในการบุกเบิกตลาดจีน จนในที่สุดก็มาลงตัวที่ “ทุเรียนแปรรูป” ประเภททุเรียนฟรีซดราย และ ทุเรียนทอด โดยเป็นสินค้าเปิดตัวของพวกเรา ภายใต้แบรนด์ “สามเกลอ – SAM GLER” และได้เปิดตัวสินค้าครั้งแรกในจีน โดยได้รับเชิญจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู ให้เข้าร่วมในงานเทศกาลไทย ณ นครเฉิงตู ครั้งที่ 13 ซึ่งถือเป็นเกียรติกับพวกเราเป็นอย่างมาก และการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ สินค้าของเรายังได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคชาวจีนท้องถิ่น สร้างกำลังใจและความเชื่อมั่นให้กับพวกเรามากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
ก้าวแรกของธุรกิจ นำไปสู่การร่วมแรงร่วมใจ
ในการดำเนินธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใดก็ตาม การที่จะทำเพียงคนเดียวนั้น บอกได้เลยว่าประสบความสำเร็จยาก จนอาจไม่สามารถขยายกิจการอย่างต่อเนื่องได้ จึงจำเป็นต้องแสวงหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่จะมาช่วยผลักดันสินค้าเข้าสู่ตลาดจีนในช่องทางที่หลากหลาย ซึ่งผมกับรุ่นพี่ได้จัดตั้งบริษัทเทรดดิ้งอยู่ในนครเฉินตู ทำธุรกิจนำเข้า-ส่งออกสินค้าระหว่างไทยกับจีน นอกจากนี้ สินค้าในไทยอย่าง น้ำมะพร้าวออร์แกนิก และกล้วยฉาบหลากรสชาติ ได้เข้ามาบุกตลาดในนี้ได้ประมาณ 1 ปีกว่า พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดหน้าร้านออนไลน์จำหน่ายสินค้าไทยในเว็บไซต์ถาวป่าว ซึ่งเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าออนไลน์ยอดนิยมของชาวจีน
“เราได้วางแผนที่จะจับมือร่วมกันในการนำสินค้าแปรรูปในไทยมาบุกเบิกและขยายตลาดในประเทศจีน นอกจากสินค้าของพวกเราได้วางจำหน่ายอยู่บนร้านค้าถาวป่าวในจีนแล้ว ล่าสุดน้ำมะพร้าวออร์แกนิกยังได้วางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าใหญ่แห่งหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้อีกด้วย ในขณะเดียวกัน พวกเราก็กำลังมองหาลู่ทางของช่องทางตลาดในจีนเพิ่มเติม ซึ่งหวังว่าในอนาคตข้างหน้า สินค้าของเราจะเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับแก่ผู้บริโภคชาวจีนมากยิ่งขึ้นด้วย”
ข้อมูลติดต่อ : ห.จ.ก ประยงค์การเกษตร, โทรศัพท์ :082-614-2225, Line ID : cheng00ng, Facebook : Prasin Utawong Wechat : chengoong