จากภาวะขาดแคลนผลผลิตดันราคาข้าวเหนียวพุ่ง ทำสถิติใหม่ขายในราคากิโลกรัมละ 50 บาท ส่งผลทำให้ผู้บริโภคต้องรับภาระค่าใช้จ่ายด้านอาหารเพิ่มขึ้น 2.3-3.2% ล่าสุด ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ออกมาคาดการณ์ว่า ราคาข้าวเหนียวจะปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวเหนียวในท้องตลาดปรับตัวสูงขึ้น มาจากปัจจัยที่ปริมาณผลผลิตข้าวเปลือกเหนียวในรอบนาปี 2561/2562 ลดลงจากการที่เกษตรกรหันไปปลูกข้าวหอมมะลิแทน ประกอบกับผลกระทบจากภัยแล้งที่ส่งผลต่อปริมาณผลผลิตในรอบนาปรัง ส่งผลให้ภาพรวมปริมาณผลผลิตข้าวเปลือกเหนียวในปี 2561/2562 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 6.45 ล้านตัน ซึ่งอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี กดดันให้ราคาข้าวเปลือกเหนียวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และจากสถานการณ์การปรับราคาข้าวเปลือกเหนียวที่เพิ่มขึ้นนี้ ส่งผลให้เกิดการเร่งตัวของราคาข้าวสารเหนียวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20 (YoY) ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2562 ส่งผลให้ราคาอาหารที่มีข้าวเหนียวเป็นวัตถุดิบหรือเป็นองค์ประกอบในมื้ออาหารปรับราคาเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ล่าสุดราคาข้าวสารเหนียวขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท ทำให้ประชาชนต้องรับภาระค่าใช้จ่ายด้านอาหารที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อเดือนราวร้อยละ 2.3-3.2 ซึ่งจะส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อทั่วไป ประมาณร้อยละ 0.1
อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ราคาข้าวเปลือกเหนียวจะปรับลดลงในช่วงปลายเดือนตุลาคมจนถึงเดือนธันวาคม 2562 เนื่องจากเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวข้าวนาปี 2562/2563 ซึ่งราคาเฉลี่ยข้าวเปลือกเหนียวอาจปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ 11,900 บาทต่อตัน ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2562