โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

‘วีรศักดิ์’ มั่นใจหลังนำ รมช. พาณิชย์กัมพูชา ดูไร่ข้าวโพดและตลาดไท จะช่วยยกระดับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ

‘รมช.พาณิชย์’ นำ รมช.พาณิชย์กัมพูชา ดูไร่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มาตรฐาน GAP ที่สระบุรี และระบบการบริหารจัดการตลาดกลางสินค้าเกษตรที่ครบวงจรของไทยที่ตลาดไท เชื่อจะช่วยยกระดับมาตรฐานการผลิตสินค้าเกษตรทั้งสองฝ่ายให้มีมาตรฐานเดียวกัน และขยายการค้าการลงทุนระหว่างสองประเทศ ปูทางสู่เป้าหมายการค้า 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2563

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังนำ นาย สก โสเพียก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ลงพื้นที่ศึกษาดูงาน ณ แหล่งเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในจังหวัดสระบุรี และตลาดไทในจังหวัดปทุมธานี ในวันที่ 29 สิงหาคม นี้ ว่าภารกิจนี้เป็นการเน้นย้ำและสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของไทยว่ามีมาตรฐานสากล

และเมื่อนำไปใช้ผลิตเป็นอาหารสัตว์หรือผลิตภัณฑ์อื่นจะทำให้สินค้าประเภทนั้นๆ เป็นที่ยอมรับของตลาดโลก ตลอดจนแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถของระบบการบริหารจัดการตลาดกลางสินค้าเกษตรที่ครบวงจรของไทยและใหญ่ที่สุดในอาเซียน เพื่อเป็นแนวทางให้กัมพูชานำไปปรับมาตรฐานการผลิตและการกระจายสินค้าเกษตรให้มีมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาคการผลิตและภาคการส่งออกของทั้งสองประเทศและต่ออาเซียนในที่สุด

นายวีรศักดิ์ เสริมว่า ความร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชาในครั้งนี้ จะช่วยสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจที่ดีระหว่างกัน และนำไปสู่การขยายการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ ให้บรรลุเป้าหมายการค้าที่ 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2563 ตามที่ตั้งเป้าไว้ ซึ่งสอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการเร่งรัดการส่งออกสินค้าและบริการ โดยเน้นส่งออกพืชผลทางการเกษตร และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคการเกษตร เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกของไทยสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะตลาดอาเซียน

ในปี 2561 กัมพูชาเป็นคู่ค้าอันดับที่ 6 ของไทยในอาเซียน และอันดับที่ 18 ของไทยในโลก ในปี 2561 การค้ารวมไทย-กัมพูชา มีมูลค่า 8,387.97 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 35.54 โดยไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้า 6,851.96 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2562 การค้ารวมไทย-กัมพูชา อยู่ที่ 5,063.82 ล้านเหรียญสหรัฐ

เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 10.52 สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถจักรยานยนต์ และส่วนประกอบ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบ สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ ผักและของปรุงแต่งจากผัก ลวดและสายเคเบิ้ลที่หุ้มฉนวน อะลูมิเนียมและผลิตภัณฑ์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป ทองแดงและผลิตภัณฑ์