‘รมช.พาณิชย์’ เตรียมนำทัพกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จับมือกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและกลุ่มสหกรณ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี ผลักดันนโยบายให้สหกรณ์และเกษตรกรใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ สร้างแต้มต่อส่งออกสินค้าเกษตร โดยเฉพาะเงาะและกล้วยหอม พร้อมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอบุกตลาดต่างประเทศ
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จะเดินทางลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและกลุ่มสหกรณ์ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 19-20 กันยายน 2562 เพื่อผลักดันนโยบายให้สหกรณ์และเกษตรกรใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ โดยวันที่ 19 กันยายน 2562 จะนำคณะลงพื้นที่พบปะเกษตรกร และสหกรณ์การเกษตรบ้านนาสาร จำกัด อำเภอบ้านนาสาร
ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมผลไม้ของสมาชิกสหกรณ์ โดยเฉพาะเงาะและกล้วยหอม ไปตลาดต่างประเทศ อาทิ อาเซียนและจีน พร้อมทั้งลงพื้นที่พบปะสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มแม่น้ำท่าทอง จำกัด อำเภอกาญจนดิษฐ์ ที่เป็นแหล่งผลิตกุ้งขาวแวนนาไม จำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีตลาดหลัก คือ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น แคนนาดา และสหภาพยุโรป
สำหรับวันที่ 20 กันยายน 2562 จะเป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “พัฒนาความพร้อมทางการค้าของสหกรณ์ไทยสู่การค้าเสรี” ณ โรงแรมไดมอนด์ พลาซ่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้กับสมาชิกสหกรณ์ และเกษตรกร 5 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร กระบี่ และพังงา เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี เปิดตลาดสินค้าของสหกรณ์ไทยสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงและแน่นอนให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวเสริมว่า หลังจากได้รับนโยบายจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้ความสำคัญกับการหาตลาดและกระจายสินค้าในภูมิภาคของไทยไปต่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ จึงได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ ดำเนินโครงการ “พัฒนาความพร้อมทางการค้าของสหกรณ์ไทยสู่การค้าเสรี” เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาคของไทยสู่สากล และช่วยสร้างแต้มต่อในการส่งออกสินค้าเกษตรในพื้นที่สู่ตลาดต่างประเทศ
นางอรมน เพิ่มเติมว่า การดำเนินโครงการครั้งนี้ จะช่วยให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรได้ใช้เอฟทีเอสร้างโอกาสทางการค้าและขยายตลาดไปต่างประเทศ รวมทั้งพัฒนาคุณภาพและยกระดับมาตรฐานสินค้า และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสหกรณ์ โดยเฉพาะสหกรณ์การเกษตรบ้านนาสาร จำกัด ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมผลไม้ อาทิ เงาะและกล้วยหอม ไปตลาดต่างประเทศ เช่น อาเซียนและจีน เป็นต้น ซึ่งไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่จากไทยแล้ว
ภายใต้ข้อตกลงร่วมกันในเอฟทีเอ โดยส่งกระจายให้ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าในประเทศ และส่งออกไปต่างประเทศ โดยส่งออกเงาะไปจีน มาเลเซีย และสิงคโปร์ และส่งออกกล้วยหอมไปญี่ปุ่น สำหรับสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มแม่น้ำท่าทอง จำกัด ยังมีแผนสร้างห้องเย็นเพื่อแปรรูปกุ้งเพิ่มมูลค่าสินค้า และลดต้นทุนการผลิต เตรียมส่งออกไปยังต่างประเทศ พร้อมทั้งมีแผนจัดแสดงสินค้าที่จีนและญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายอีกด้วย
ทั้งนี้ ในงานสัมมนาฯ จะมีการเสวนาหัวข้อ “ติดอาวุธสหกรณ์ไทยใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ” และ “ยกระดับการแข่งขันสหกรณ์ไทย ให้ก้าวไกลในโลกการค้าเสรี” และจะนำทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าและการตลาดมาวิเคราะห์สินค้า และแนะนำตลาดส่งออกที่เหมาะสมให้กับสหกรณ์ ซึ่งมั่นใจว่าการดำเนินโครงการครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์แก่สหกรณ์ และเกษตรกร ได้เห็นช่องทางการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอที่ไทยทำกับประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอาเซียนและจีน