โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

คปภ. เผยประกันภัยข้าวนาปียอดทะลุ 27.99 ล้านไร่ สร้างสถิติใหม่วงการประกันภัย

คปภ.ระบุยอดชาวนาทำประกันภัยถึงเดือนกันยายน 2.13 ล้านราย เบียดตัวเลข 1.9 ล้านรายของปี 2561 ในขณะที่จำนวนพื้นที่ปลูกข้าวนาปี พุ่ง 27.99 ล้านไร่ ซึ่งถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่จัดทำโครงการฯ แถมมีลุ้นยอดเพิ่มจากพื้นที่เพาะปลูกข้าวในภาคใต้

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562 เห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2562 และโครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2562 โดยมอบหมายให้สำนักงาน คปภ. ปรับปรุงกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี และจัดทำกรมธรรม์ประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้เป็นไปตามรูปแบบและหลักเกณฑ์ของการรับประกันภัย ตลอดจนส่งเสริมความรู้ด้านประกันภัยแก่เกษตรกรผู้เพาะปลูกข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้มีเครื่องมือในการบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ รวมทั้ง ขับเคลื่อนโครงการ “Training for the Trainers” ประจำปี 2562 เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ด้านการประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้แก่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องที่จะไปเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ต่อให้กับเกษตรกรและผลักดันระบบการประกันภัยเข้าไปเป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารความเสี่ยงภัยธรรมชาติให้กับเกษตรกร โดยปีนี้ได้กำหนดพื้นที่จัดการอบรมฯ ครอบคลุมในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ 10 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา นครสวรรค์ ชัยนาท เพชรบูรณ์ น่าน เชียงราย ขอนแก่น อุบลราชธานี นครพนม และจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นจังหวัดสุดท้ายในการลงพื้นที่และปิดโครงการ“Training for the Trainers” ประจำปี 2562

ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ อ.หัวไทร จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา พบว่าเกษตรกรได้สะท้อนสภาพปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ซึ่งทาง คปภ.จะนำข้อมูลไปปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการรับประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมถึงการประกันภัยพืชผลชนิดอื่นๆ ให้ดียิ่งขึ้นในปีต่อๆ ไป ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ พบว่า อ.หัวไทร มีการปลูกข้าวนาปี จำนวน 38,055 ไร่ เป็นอันดับ 1 ของ จ.นครศรีธรรมราช และมีพื้นที่ทำประกันภัยข้าวนาปี 36,691 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 96.42 ซึ่งนับได้ว่าเป็นอัตราที่สูงมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั้งหมด ในขณะที่ความเสียหายของพื้นที่ปลูกข้าวนาปีใน อ.หัวไทร ส่วนใหญ่เกิดจากลมพายุ ซึ่งจากข้อมูลที่ผ่านมา ภัยพิบัติต่างๆจะเริ่มปรากฏตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปี จึงแนะนำให้เกษตรกรในพื้นที่ภาคใต้เร่งทำประกันภัย เนื่องจากสามารถทำประกันภัยข้าวนาปีได้จนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2562

หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา เลขาธิการ คปภ. เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการอบรมความรู้ประกันภัย (Training for the Trainers) ประจำปี 2562 ณ ห้องฟอร์จูน 2-3 โรงแรมแกรนด์ฟอร์จูน จ.นครศรีธรรมราช โดยมีนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้เกียรติกล่าวต้อนรับ พร้อมทั้งลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยเรื่องการบูรณาการส่งเสริมความรู้และสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย กับหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี นายกรกฎ เตติรานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมลงนาม ซึ่งกรอบความร่วมมือดังกล่าว มุ่งเน้นการส่งเสริมและผลักดันให้ผู้ประกอบการ พาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับความรู้ด้านการประกันภัย เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงและเป็นหลักประกันความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนเป็นเครือข่ายในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านประกันภัยไปสู่เกษตรกรและภาคส่วนต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช อย่างครบวงจร

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์พายุโซนร้อน “โพดุล”และพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ทำให้ฝนตกหนักเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รับความเสียหายรวม 32 จังหวัด 175 อำเภอ 896 ตำบล และ 6,400 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 370,749 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 29 ราย อพยพประชาชน 20,943 คน ในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี และร้อยเอ็ด รวม 70 จุด ซึ่งเป็นข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย ณ วันที่ 11 กันยายน 2562

โดยข้อมูลการรับประกันภัยข้าวนาปีทั่วประเทศ ล่าสุด ณ วันที่ 17 กันยายน 2562 พบว่า มีเกษตรกรทำประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2562 จำนวนทั้งสิ้น 2.13 ล้านราย โดยมีพื้นที่ที่ทำประกันภัยข้าวนาปี (ส่วนที่ 1) จำนวนทั้งสิ้น 27.99 ไร่ และเกษตรกรซื้อความคุ้มครองส่วนเพิ่ม (ส่วนที่ 2) ด้วยการจ่ายเบี้ยประกันภัยเอง จำนวน 2.43 ล้านไร่ โดยขณะนี้มีพื้นที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติจำนวน 1.38 ล้านไร่ จ่ายค่าสินไหมทดแทนไปแล้วกว่า 1,742 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนค่าสินไหมทดแทนต่อเบี้ยประกันภัย (Loss Ratio) เท่ากับร้อยละ 80.04

ดังนั้นโดยภาพรวมของการทำประกันภัยข้าวนาปีในปีนี้ แม้จะยังไม่รวมตัวเลขการทำประกันภัยข้าวนาปีในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากภาคใต้ยังเปิดรับประกันภัยข้าวนาปีไปจนถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2562 ก็ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และที่สำคัญระบบประกันภัยสามารถเข้าไปบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียให้กับพี่น้องเกษตรกรได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเห็นได้จากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย