มาสเตอร์แฟรนไชส์ "The Alley" แบรนด์ชานมไข่มุกพรีเมียมจากประเทศไต้หวันจัดงานฉลองครบรอบ 1 ปี ภายหลังจากนำแบรนด์มาเปิดตลาดในไทย พร้อมประกาศเปิดเกมรุกขยายสาขาไม่น้อยกว่า 20 สาขา ภายในปี 2020
ทั้งนี้ ตั้งเป้าที่จะเดินหน้าเปิดสาขาในพื้นที่กรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยปักหมุดจังหวัดที่มีกำลังซื้อสูง ไม่ว่าจะเป็น อุดรธานี ชลบุรี ระยอง และภูเก็ต พร้อมเดินหน้ากางแผนธุรกิจเพิ่มโปรดักส์ใหม่อย่าง ของหวาน เบเกอรรี่ ไอศกรีม พร้อมจับมือพันธมิตรธุรกิจพัฒนาเครื่องดื่มเมนูใหม่ เพิ่มเมนูร้อน และแตกไลน์ธุรกิจสู่บริการ Catering ตอกย้ำภาพผู้นำแบรนด์ชานมไข่มุกพรีเมียม ด้วยการใช้วัตถุดิบและส่วนผสมที่เผ็นออร์แกนิคเพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค ชูวิชั่น Go Green ร่วมรักษ์โลก
นายอนล ธเนศวรกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มิลลาร์รี่ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน The Alley เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยครบรอบ 1 ปี และได้รับการตอบรับที่ดีและประสบผลสำเร็จอย่างมาก ด้วยยอดขายกว่า 100,000 แก้วต่อเดือน โดยออกแบบร้านตามไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค ด้วยแนวคิดการตกแต่งร้านที่มีกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติ และพัฒนาร้านให้มีรูปแบบแตกต่างไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็น The Alley Exprees เหมาะสำหรับลูกค้าที่ซื้อเครื่องดื่มกลับไปทานที่บ้านหรือที่ทำงาน และ Delivery ช่วยให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบ The Alley Cafe' กับความหลากหลายของเมนู คาดว่าในอนาคตจะขยายร้านทั้ง 2 รูปแบบ ให้มีสาขาเพิ่มขึ้น และอาจนำไปสู่การพัฒนารูปแบบร้านอื่นๆ เพิ่มขึ้นในอนาคตอีกด้วย
ด้าน นางสาวอุณาวรรณ ตั้งคารวคุณ ผู้ร่วมก่อตั้ง และกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิลลาร์รี่ จำกัด จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้บริษัทมีแผนที่จะขับเคลื่อนธุรกิจในไทยอย่างจริงจังใน 5 ด้าน ได้แก่
- มุ่งขยายสาขาในไทยไม่น้อยกว่า 20 สาขา ภายในปี 2563 โดยพุ่งเป้าไปที่จังหวัดที่มีกำลังซื้อสูง ได้แก่ อุดรธานี ชลบุรี ระยอง และภูเก็ต ซึ่งขณะนี้ The Alley มีสาขาทั้งหมด 12 สาขา และภายในเดือนธันวาคมนี้จะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา คือ ไอคอนสยาม และ เดอะมอลล์งามวงศ์วาน
- เพิ่มสินค้าใหม่เพื่อให้เกิดความหลากหลายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ไอศกรีม Soft Serve เบเกอรี่ต่างๆ พร้อมครัวซองต์ พร้อมเสิร์ฟร้อนๆ ที่ The Alley Cafe' และ เครื่องดื่มร้อนมากกว่า 20 เมนู
- Catering ขยายสู่ธุรกิจการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ สำหรับงานอีเว้นท์ งานแต่งงาน โดยจะจับกลุ่มธุรกิจโรงแรม ออฟฟิศสำนักงาน เป็นต้น
- วัตถุดิบส่วนผสมเน้นเป็นออร์แกนิค เช่น น้ำเชื่อมที่ผลิตจากอ้อยออร์แกนิค และสีสังเครมะห์จากใบชาออร์แกนิค เป็นต้นฃ
- มุ่งสู่ Go Green แบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ด้าน ได้แก่ การดำเนินงานภายใน เช่น การใช้ส่วนประกอบออร์แกนิค การใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกร้อน เป็นต้น และ การดำเนินงานภายนอก เช่น การรณรงค์ลดการใช้ขยะพลาสติก รณรงค์การใช้ถุงผ้า การใช้ถุงกระดาษ การจัดโปรโมชั่นส่วนลดเพื่อส่งเสริมการลดขยะ เป็นต้น
The Alley เปิดตัวสาขาแรกในประเทศไต้หวันเมื่อปี 2557 จากนั้น 1 ปี ได้ขยายสาขาในไต้หวันเพิ่มอีก 10 สาขา ต่อมาในปี 2559 ได้ขยายสาขาออกไปยังประเทศแคนาดาและมาเก๊า ในปี 2560 ขยายสาขาในประเทศมาเลเซีย ญี่ปุ่น ฮ่องกง จีน และเวียดนาม และในปี 2561 ได้เข้าไปเปิดตลาดในประเทศฝรั่งเศส ออสเตรเลีย เกาหลี และไทย ปัจุบัน The Alley มีสาขาอยู่ใน 10 ประเทศทั่วโลก ทั้งหมดกว่า 315 สาขา