โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

บอกสูตร ทำ “ข้าวหลาม” เงินล้าน เมนูเด็ดของกินเล่นคลายหนาว

ย่างเข้าหน้าหนาวกันแล้ว หลายพื้นที่คงกำลังหาวิธีคลายหนาวกันใช่ไหมล่ะคะ ชี้ช่องรวย วันนี้เราเลยอยากจะมาแนะนำเมนูเด็ดที่นิยมทำรับประทานกันช่วงหน้าหนาว นั่นก็คือ “ข้าวหลาม” นั่นเองค่ะ

กับจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้าเมนูนี้อยู่ที่การนำเอาข้าวเหนียวไปผสมกับเครื่องปรุง ไม่ว่าจะเป็น กะทิ น้ำตาล เกลือ แล้วนำมาบรรจุในกระบอกไม้ไผ่ จากนั้นก็นำมาหลามกับไฟจนข้าวเหนียวในกระบอกสุกส่งกลิ่นหอมเย้ายวนน้ำลาย ทานร้อนๆ ตอนอากาศเย็นๆ ก็ฟินไปอีกแบบกันเลยทีเดียวค่ะ และสำหรับใครที่จะนำไปทำขายกันเราก็ไม่ว่า เพราะจะได้เป็นการหารายได้เสริมเข้ากระเป๋าของคุณๆ กันด้วย ส่วนผสมและขั้นตอนเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ

ส่วนผสม

1.ข้าวสารเหนียว 1/2 ลิตร

2.น้ำตาลทราย 400 กรัม

3.กะทิ 3 ถ้วย

4.ถั่วดำถั่วดำต้มสุก 2 ถ้วย

5.เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ

6.ไผ่ข้าวหลาม 12 กระบอก

7.กาบมะพร้าว 12 ชิ้น

วัสดุอุปกณ์

1.ไม้ไผ่อ่อน

2.มีดปลอกข้าวหลาม

3.ราวเหล็ก

4.ถ่าน 5 กิโลกรัม

5.ช้อน

6.หม้อ

7.ไม้คีบถ่าน

ขั้นตอนและวิธีการดำเนินงาน

1.ตัดไผ่ข้าวหลามให้ยาวประมาณ 12 นิ้ว ล้างเฉพาะด้านนอกกระบอก ให้สะอาด คว่ำกระบอกลง พักไว้ให้แห้ง

2.ผสมกะทิ น้ำตาล และเกลือ รวมกันแล้วคนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย

3.ล้างข้าวสารให้สะอาดจนกระทั่งน้ำใส นำข้าวใส่ตะกร้าเพื่อให้สะเด็ดน้ำ ใส่ถั่วดำต้มสุกลงในข้าว คลุกเคล้าให้เข้ากัน

4.นำข้าวที่ผสมถั่วดำแล้วใส่ลงในกระบอก 1 กำมือ กระแทกเบาๆ ทำสลับกันต่อไปเรื่อยๆ จนเต็มกระบอก เลือกด้านบนกระบอกไว้ประมาณ 2 นิ้ว สำหรับปิดจุก

5.นำกาบมะพร้าวม้วนมาปิดกระบอกข้าวหลาม

6.เผาข้าวหลามพอประมาณ 30-45 นาที สังเกตกระบอกมีสีเหลืองทั่ว แสดงว่าข้าวหลามสุก

7.ทิ้งไว้ให้อุ่น ปอกเปลือก และเหลาให้เปลือกข้าวหลามบางลง เพื่อให้แกะรับประทานได้ง่าย

วิธีการย่างไฟ

1.ติดไฟเตา เมื่อไฟติดได้ที่แล้ว จึงนำกระบอกข้าวหลามที่เตรียมไว้มาวางเรียงในลักษณะตั้งเอนขึ้นให้พิงกับแนวหลักที่ทำจากท่อนเหล็ก

2.ควรพลิกข้าวหลามอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ข้าวหลามสุกอย่างทั่วถึง และไม่ให้ข้าวหลามไหม้บริเวณใดบริเวณหนึ่ง

3.หากกะทิเดือดมาก ต้องคอยดึงจุกข้าวหลามออก แล้วเทกะทิใส่เข้าไปใหม่

4.การย่างข้าวหลามจะต้องอาศัยระยะเวลาในการย่างถึง 1 ชั่วโมง ข้าวหลามจึงจะออกมาดูน่ารับประทาน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : โรงเรียนสวัสดิ์รัตนาภิมุข จ.ตรัง