โอกาสของคนตัวเล็ก

  • ติดต่อเรา
  • เกี่ยวกับเรา
  • ติดต่อโฆษณา
Responsive image

บอกต่อเคล็ดลับการเป็น“ล่าม” แปลภาษา อีกหนึ่งอาชีพที่ทำเงินแบบไม่มีวันตาย

หากถามว่าอาชีพไหนจะกลายเป็นอาชีพทำเงินแบบ Never die หรือเป็นอาชีพยอดฮิตแบบไม่มีวันตาย ชี้ช่องรวย คงต้องของยกให้ “อาชีพล่าม” เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่อยากจะแนะนำกันค่ะ เพราะในโลกปัจจุบันมีการติดต่อสื่อสารกับชาวต่างชาติกันมากขึ้น เรียกว่าการสื่อสารนั้นไร้พรมแดนมากขึ้นทุกวัน การเจรจาติดต่อเพื่อการค้าการขาย หรือทำธุรกิจจึงจำเป็นต้องมีการพูดจาตกลงกัน หากคนต่างชาติต่างภาษามาคุยกันอาจจะทำให้ธุรกิจเกิดความล้มเหลวได้ ดังนั้น การมีล่ามประจำกายจึงมีความจำเป็นอย่างมาก

หากคุณเคยเดินทางไปงานแสดงสินค้าที่มีกิจกรรมการเจรจาธุรกิจ เรามักจะพบเห็นล่ามแปลภาษาประจำบูธต่างๆ คุณรู้หรือไม่ว่า ล่ามแปลภาษาเหล่านี้มีค่าตอบแทนเท่าใด หรือหากเข้าไปสมัครทำงานประจำ เครดิตหรือโอกาสที่จะได้รับการตอบรับเข้าทำงานย่อมมีมากกว่า ดังนั้น การเรียนรู้และฝึกปรือเรื่องภาษาให้คล่องเข้าไว้สำคัญมากๆ เลยนะคะ

ลักษณะของงานของ “ล่าม” หลักๆ สามารถแตกไลน์ได้ 3 สาขาใหญ่ๆ ได้แก่

1.ล่ามประจำบริษัท

เป็นงานที่บริษัทจ้างไว้เพื่อให้ช่วยเป็นล่ามเวลามีการประชุม และไปพบลูกค้า ส่วนมากจะเน้นไปที่ภาษาพิเศษ เช่น ภาษาญี่ปุ่น เกาหลี สเปน อาหรับ ส่วนภาษาอังกฤษนั้นตัวเจ้าของบริษัทแทบทุกคนพอจะพูดได้อยู่แล้ว

2.ล่ามประจำตัว

เป็นล่ามที่องค์กรจัดหาล่ามส่งมาให้กับนักธุรกิจที่ต้องการเดินทางไปติดต่อเจรจาธุรกิจการค้าระหว่างประเทศเป็นกรณีไป และจะได้รับเงินเป็นจ๊อบๆ ไป

3.ล่ามที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในศาล
เวลาศาลไทยจะต้องพิจารณาคดีชาวต่างชาติ จะมีล่ามซึ่งได้รับการรับรองและสอบผ่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านล่ามและการแปลเอกสารของกระทรวงยุติธรรมมาแล้ว เข้าไปทำหน้าที่ถ่ายทอดภาษาด้วย

กว่าจะมาเป็นล่าม ต้องเรียนด้านใดบ้าง

แน่นอนว่าต้องเรียนปริญญาตรีมาทางภาษา และต้องแตกฉานในระดับที่เหมือนหรือเกือบเหมือนเจ้าของภาษาเลยด้วย ถึงจะสามารถฟังแล้วแปลได้ทันที นอกจากนี้ควรเข้าฝึกอบรมในโครงการอบรม “หนทางสู่ล่ามมืออาชีพ” ของสถาบันสอนภาษาต่างๆ มาบ้าง เพื่อเรียนรู้ทักษะวิธีทำงานแบบล่ามจริงๆ เช่น เทคนิคพื้นฐานของการเป็นล่าม การจับใจความการประชุม การสรุปเนื้อหา เทคนิคการจดเนื้อเรื่อง เรียนรู้ปัญหาและมารยาทของอาชีพล่าม เป็นต้น

อยากเป็น “ล่าม” ต้องทำตัวอย่างไร

1.หมั่นฝึกฝนภาษาเฉพาะที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ เพราะอย่างที่บอกว่ายุคนี้ใครๆ ก็พูดภาษาอังกฤษได้ ล่ามที่สามารถพูดภาษาอื่นจึงได้เปรียบกว่า ยิ่งถ้าพูดได้หลายภาษา เช่น อิตาลี สเปน ฝรั่งเศส ในคนๆเดียว ทั้งโอกาสและค่าจ้างก็จะสูงตามไปด้วย

2.เก็บความลับให้เป็น ไม่ว่าลูกค้าจะคุยกันเรื่องอะไรต้องทำลืมไปจากสมองให้หมด ห้ามเอาไปบอกต่อเป็นอันขาด เพราะบางทีข้อมูลเล็กๆ ชิ้นเดียวก็อาจทำให้สถานการณ์ทั้งบริษัทพลิกผันได้

3.มีไหวพริบ สามารถตีความจากภาษาหนึ่งไปเป็นอีกภาษาได้ทันทีและไม่ผิดพลาด คนที่จะเป็นล่ามจึงต้องทันข่าวตลอดเวลา สมมุติว่าเจ้านายสเปนพูดถึงเรื่องการประท้วง เจ้านายอิตาลีคุยกลับถึงข่าวน้ำท่วมที่บาหลี ถ้าล่ามไม่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองเลยก็อาจจะแปลผิดๆ ถูกๆ ได้

เป็น “ล่าม” รายได้ดีเกินคาด

ล่าม เป็นอาชีพที่รายได้ดีมากๆ ส่วนใหญ่มักสตาร์ทที่ 20,000 บาทขึ้นไป ยิ่งถ้าเคยได้รับทุนไปเรียนต่อทางภาษานั้นๆ ที่ประเทศเจ้าของภาษามาแล้ว เช่นได้ทุนไปเรียนที่ญี่ปุ่น 1 ปี ไปเรียนที่อิตาลี 2 ปี ค่าจ้างจะสตาร์ทกันที่ 3-4 หมื่นบาทเลยทีเดียว ไม่รวมโบนัสและสวัสดิการอีกต่างหาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเงินเดือนดีงานก็ย่อมต้องเยอะตามไปด้วย โดยเฉพาะคนที่เป็นล่ามประจำบริษัทมักต้องตระเวนไปกับเจ้านายร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ตั้งแต่เช้ายันค่ำ ถ้าเจ้านายไปเลี้ยงลูกค้าถึงห้าทุ่มเที่ยงคืนก็ต้องทน เพราะถ้าคุยกันเองรู้เรื่องบริษัทเขาก็คงจะไม่จ้างคุณมาเรียนภาษา ฝึกปรือภาษาคล่องแล้ว แล้วจะไปหางานจากที่ไหน
บริษัทใหญ่ๆ มักจะจ้างล่ามผ่านทางบริษัทรับจัดหางาน เพื่อให้บริษัทจัดหางานช่วยสกรีนในเบื้องต้นก่อนว่า เรามีความสามารถทางภาษาดี ทำงานให้เขาได้จริงๆ ไม่ใช่ไปสัมภาษณ์แล้วไปนั่งพูดตะกุกตะกัก คนที่อยากเป็นล่ามจึงเพียงแต่ไปทิ้งใบสมัครไว้ตามบริษัทจัดหางาน เดี๋ยวเดียวงานก็เดินทางมาถึงมือเอง

ปัจจุบันโลกเข้าสู่ยุคโซเชียลเน็ตเวิร์ค ดังนั้น การหางานผ่านช่องทางนี้ก็สามารถทำได้ และเป็นเรื่องง่ายมากๆ หรืออาจจะเข้าเว็บไซต์ตามหน่วยงานใหญ่ๆ แล้วตรวจสอบการรับสมัครงานก็สามารถทำได้เช่นกัน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.viteetam.com